Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
แพทย์เตือนนักท่องราตรีเสี่ยงติดเชื้อ"เอชพีวี"สูง
แพทย์เตือนนักท่องราตรีเสี่ยงติดเชื้อ"เอชพีวี"สูง
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า "ไวรัสเอชพีวี" จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น โดยเชื้อเอชพีวีก่อให้เกิดโรคได้หลายชนิด ได้แก่ หูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก รวมถึงมะเร็งบริเวณช่องปากและคอหอย ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
สำหรับเชื้อเอชพีวีที่ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักมีประมาณ 40 สายพันธุ์ จากทั้งหมด 200 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่การติดเชื้อหายได้เอง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งเป็นสาเหตุร้อยละ 90 ของหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ และหูดที่กล่องเสียงในเด็ก ส่วนสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง หรือสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมาก เช่น สายพันธุ์ 16 และ 18 ทำให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศ ที่สำคัญ คือ มะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ส่วนในผู้ชายเป็นสาเหตุที่สำคัญของมะเร็งบริเวณช่องปากและคอหอย รวมถึงมะเร็งอวัยวะเพศและทวารหนัก
ศ.ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ผู้หญิงร้อยละ 80-90 จะติดเชื้อเอชพีวี แต่ไม่ใช่สายพันธุ์ที่มีความรุนแรง สามารถหายได้เองโดยไวรัสเอชพีวีติดต่อได้ผ่านการสัมผัส จึงเกิดคำถามว่าเชื้อไวรัสเอชพีวีสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส หรือจากสิ่งแวดล้อมได้หรือไม่
ดังนั้น จึงได้ร่วมกับราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ทำการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม โดยใช้สำลีปราศจากเชื้อชุบน้ำยาตรวจหาไวรัสเอชพีวีเช็ดถูบริเวณต่างๆ อาทิ ราวบันไดเลื่อน ที่รองนั่งโถส้วม ก๊อกน้ำที่อ่างล้างมือ เพื่อตรวจจับเชื้อไวรัสเอชพีวีจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ อาทิ ในห้างสรรพสินค้า โรงเรียนกวดวิชา สนามเด็กเล่น โรงพยาบาลปั๊มน้ำมัน สถานบันเทิง รถไฟฟ้า และรถประจำทาง
จากสิ่งส่งตรวจจำนวน 100 ตัวอย่างจากสถานที่ต่างๆ สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ถึง 4 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 4 พบเชื้อไวรัสเอชพีวีที่ด้ามกดชักโครกในห้องน้ำหญิงในโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งจากจำนวน 3 แห่งที่จัดเก็บตัวอย่าง ก๊อกน้ำล้างมือที่ติดกับอ่างล้างมือในห้องน้ำชายในห้างแห่งหนึ่งจากจำนวน 4 แห่งที่จัดเก็บ ที่รองนั่งโถส้วมในห้องน้ำหญิงในสถานบันเทิงแห่งที่ 1 และที่รองนั่งโถส้วมในห้องน้ำชายจากสถานบันเทิงแห่งที่ 2 จากจำนวน 3 แห่งที่จัดเก็บ
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากงานวิจัยดังกล่าวสรุปได้ว่า สถานที่ที่ สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเอชพีวี มักเป็นที่เย็นชื้น และไม่มีแสงแดดส่องถึง ส่วนใหญ่จะพบจากห้องน้ำ โดยเฉพาะห้องน้ำในสถานบันเทิงที่สูงกว่าสถานที่อื่น สอดคล้องกับกลุ่มคนที่เข้าไปในสถานบันเทิงที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการติดต่อและแพร่เชื้อไวรัสเอชพีวีสูงสุด โดยตรวจพบกลุ่มไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ที่ก่อโรค คือ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18
ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย รองมาจากมะเร็งเต้านม โดยข้อมูลล่าสุดของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10,000 คน หรือวันละ 27 คน โดยแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,200 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน
"ทั้งๆ ที่เป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ โดยร้อยละ 80 ของมะเร็งปากมดลูกพบในผู้หญิงอายุ 30-60 ปี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อ เอชพีวี ซึ่งติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และยังสามารถ ติดต่อไปยังบริเวณปากและช่องคอได้ โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ หลายคนมักจะเข้าใจว่าติดเชื้อได้จากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น หากสามารถติดต่อกันได้จากการทำออรัลเซ็กซ์ด้วย"
ดังนั้น ควรจะป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนเอชพีวี ซึ่งควรจะฉีดให้แก่เด็กผู้หญิงก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด อายุที่แนะนำ คือ 11-12 ปี ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ซึ่งคาดว่าจะสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย 30 ปีโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น ซึ่งในบางประเทศมีการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กผู้ชายด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้ทุกคนกลัวว่า เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะแล้วจะติดเชื้อไวรัสเอชพีวี เพราะการป้องกันในเบื้องต้นง่ายๆ เมื่อต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ คือ การล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคที่อาจจะติดมาโดยไม่รู้ตัว
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ