Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
แนะอ่านฉลาก-ปรึกษาเภสัชฯลดผลข้างเคียงแพ้ยา
แนะอ่านฉลาก-ปรึกษาเภสัชฯลดผลข้างเคียงแพ้ยา
วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
ด้วยยารักษาโรค ถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิต ซึ่งปัจจุบันพบว่าคนไทยมีการเข้าถึงยามากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายด้านยาเพิ่มขึ้นทุกปี คิดเป็นเกือบร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท ค่ายาประมาณ 100,000 ล้านบาท มากกว่าที่ควรจะเป็น สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม และความไม่รู้ของประชาชนอยู่อีกมาก
ภก.สมชัย วงศ์ทางประเสริฐ นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ได้มีการนำ เสนอผลการวิจัยเรื่องยาเหลือใช้ ซึ่งทำการศึกษาจากข้อมูลการจ่ายยาในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 4 โรค คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หืด และปอดอุดกั้นเรื้อรัง กว่า 57,916 ราย พบว่าผู้ป่วยกว่าร้อยละ 60 มียาเหลือใช้ คิดเป็นมูลค่า 4% และประมาณการว่ามูลค่ายาเหลือใช้ทั้งประเทศมีประมาณ 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาเกี่ยวกับ "ความรู้เรื่องยา" ในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ครอบ คลุมโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ จำนวน 3,136 ราย พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เรื่องยา โดยร้อยละ 50 ไม่รู้จักชื่อยาที่ตนเองใช้ และมีเพียงร้อยละ 53.6 ที่อ่านฉลากก่อนการใช้ยา
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดจากการใช้ยา ผู้ป่วยควรอ่านฉลากยาให้ละเอียดทุกครั้งก่อนใช้ยา และไม่ควรใช้ยาของคนอื่น การไม่อ่านฉลากยา และใช้ยาผิด อาจทำให้เกิดการแพ้ยาอย่างรุนแรง และอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาเภสัชกรทุกครั้งสำหรับผู้ที่มียาเหลือใช้อยู่ในบ้าน ต้องระมัดระวังและจัดเก็บให้ดี เพราะถือเป็นความเสี่ยงใกล้ตัว ถ้าเก็บไม่ถูกวิธี จะกลายเป็นยาเสีย หากมีคนนำไปใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ดังนั้น ยาเหลือใช้ที่ยังไม่หมดอายุ และอยู่ในสภาพดี ควรเก็บอยู่ในซองยา หรือขวดยาเดิมไว้ในที่เดียวกัน และให้พ้นมือเด็ก หรือเก็บในตู้ยา หรือกระเป๋ายาให้พ้นแสงแดด ไม่อยู่ในที่ชื้น แต่อย่าเก็บยาในตู้เย็น ยกเว้นยาที่มีฉลากระบุไว้ อย่านำยาเหลือใช้มารวมในซองยา หรือขวดยาเดียวกัน อย่าแกะยาออกจากแผงหากยังไม่ใช้ ที่สำคัญอย่านำยาเหลือใช้ไปให้คนอื่นใช้ และอย่ากินยาที่คนอื่นให้มา เพราะอาการที่คล้ายกันอาจไม่ได้เกิดจากโรคเดียวกัน ขนาดยาก็อาจไม่เหมาะสม และอาจเกิดอาการแพ้ยาได้อีกด้วย
ส่วนยาเหลือใช้ที่หมดอายุ หรือเสื่อมสภาพ สีเปลี่ยน แล้วให้ทำลายก่อนทิ้ง โดยแกะฉลากที่มีชื่อผู้ป่วย ถ้าเป็นยาเม็ดให้ทุบทำลาย และเติมน้ำเล็กน้อย ถ้าเป็นยาน้ำก็ให้เทน้ำผสมลงไป ส่วนยาที่เป็นครีม หรือขี้ผึ้ง ให้บีบออกจากหลอด จากนั้นนำกากชา ขี้เลื่อย เศษผัก หรือเปลือกผลไม้ ผสมลงไปในถุงเดียวกัน ปิดปากถุงให้สนิท ก่อนนำไปทิ้ง เพื่อไม่ให้คนอื่นนำยาที่ทิ้งนั้นไปใช้ได้อีก
ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยจากการใช้ยามากยิ่งขึ้น ทางสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล ได้จัดทำสมุดบันทึกการใช้ยาประจำตัวผู้ป่วย และแอพพลิเคชั่นโปรแกรมบันทึกบัตรแพ้ยาที่สามารถ ใช้งานบนสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสะดวกในการบันทึกประวัติแพ้ยาได้ด้วยตนเอง และเภสัชกรผู้ประเมินอาการก็สามารถบันทึกข้อมูลผ่านทางมือถือ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลืมบัตรแพ้ยา สามารถดาวน์โหลด "โปรแกรมบันทึกบัตรแพ้ยา" ได้ทางแอพสโตร์ หรือ www.thaihp.org โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ