เอาไม่อยู่! ปิดไฟฟ้าชนบท

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

เอาไม่อยู่! ปิดไฟฟ้าชนบท


นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุม มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเสนอปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุน ของแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (2550-2554) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากเงินลงทุนเดิม จำนวน 67,120 ล้านบาท เป็นจำนวน 90,982.41 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รับข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ด้านนายนำชัย หล่อวัฒนะตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวถึงการเตรียมรับมือวิกฤติพลังงาน ในเดือนเมษายน นี้กรณีประเทศพม่าปิด ซ่อมแซมแท่นขุดเจาะก๊าซซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าของไทย ว่า ตนทราบจากทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้สามารถหากำลังสำรองไฟได้อีกประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ จากเดิมมีแค่ 600 เมกะวัตต์ ฉะนั้น จึงไม่น่าห่วงมากนัก อย่างไรก็ตาม กฟภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีมาตรการเตรียม ความพร้อมไว้ 4 มาตรการ คือ 1.รณรงค์ให้ภาคอุตสาหกรรมหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้ไฟสูงสุด คือ ช่วงเวลา 14.00 น. ในวันที่ 5-12 เม.ย. 2556
2.รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันประ- หยัดพลังงานโดยเฉพาะเรื่องการใช้เครื่องปรับอากาศ หากเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีก 1 องศา คือ เปิดที่ 26 องศาจะช่วยประหยัดไฟได้ถึง 6% 3.จัดเตรียม รถโมบายเครื่องปั่นไฟฟ้าไว้สำหรับสำรอง จ่ายไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นที่โรง พยาบาลหรือสถานีตำรวจเพื่อสำรองไว้หากมีเหตุไฟดับฉุกเฉินเกิดขึ้น โดยใน แต่ละเขตมีรถโมบายไว้บริการประมาณ 4-5 คัน ซึ่งเพียงพอให้บริการ
และ 4.หากเกิดไฟฟ้าดับขึ้นจริง ทาง กฟภ.จะบริหารจัดการโดยทำการดับไฟฟ้าเป็นระดับไป ในระดับแรกคือ 300 เมกะวัตต์ ถือว่าน้อยมาก คิดเป็น 1-2% ของการใช้ไฟฟ้า โดยจะดับไฟบริเวณรอบนอกเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด และจะแจ้งให้ประชาชนทราบล่วง หน้าก่อนหากจำเป็นต้องมีการดับไฟ ซึ่งหากเกิดวิกฤติจริงๆ ถึงขั้นที่ต้องดับไฟถึง 3,000 เมกะวัตต์ คิดเป็น 20% การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว
"ช่วงหน้าร้อนมีอัตราการใช้ไฟฟ้า ค่อนข้างสูง จากสถิติปีที่ผ่านมามีการใช้ไฟฟ้าในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วง หน้าร้อนที่สุด ประมาณ 2.6 หมื่นเมกะวัตต์ แต่เรามีกำลังการผลิตไฟอยู่ที่ 30,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเหลือ 4,000 เมกะวัตต์ หากก๊าซจากพม่าไม่ส่งมาจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าหายไปประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ ก็จะปริ่มพอดี แต่ว่าตอนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปหาซื้อไฟฟ้า มาจากประเทศมาเลเซียได้อีก 1,000 เมกะวัตต์ จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ต้องฝาก ถึงพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันประหยัดพลังงานทุกรูปแบบ"
ด้านนายธนา พุฒรังสี รองผู้ว่า การระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความ เชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ที่มีตัวแทนจาก กฟผ.,กฟภ.และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้าหารือร่วมกันถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับบางจุดในช่วงที่แหล่งยาดานา ของพม่าหยุดจ่ายก๊าซ ธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน นี้
จากการศึกษาพบว่า ช่วงดังกล่าวอาจมีแรงดันไฟฟ้าในเขตกรุงเทพ มหานคร และปริมณฑลบางจุดต่ำกว่าปกติ พร้อมสมมติเหตุการณ์หากเกิดกรณีโรงไฟฟ้าบางแห่งเกิดขัดข้องส่งผล ให้สำรองไฟฟ้าไม่เพียงพอ โดยมีความเห็นตรงกันว่าอาจต้องเลือกดับไฟเฉพาะ พื้นที่ และเป็นพื้นที่ที่มีผลกระทบน้อยที่สุด เช่น พื้นที่รอบนอกที่ห่างไกล หรืออาจมีการหมุนเวียนดับไฟในแต่ละพื้นที่ สำหรับพื้นที่สำคัญอย่างพื้นที่ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ จะพยายามไม่ดับไฟฟ้า เพราะมองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก หากช่วงดังกล่าวมีสภาพอากาศดีเช่นเดียวกับสองวันที่ผ่านมา เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลงด้วย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ