เข็นระบบลีสซิ่ง รัฐรับภาระดอกเบี้ยแจ้งเกิด โซลาร์ รูฟ ท็อป

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

เข็นระบบลีสซิ่ง รัฐรับภาระดอกเบี้ยแจ้งเกิด โซลาร์ รูฟ ท็อป


ท่ามกลางสถานการณ์ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติพลังงานครั้งใหญ่ เมื่อพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ จำนวน 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 2556 ส่งผลกระทบต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า จำนวน 6,400 เมกะวัตต์ แต่จากการร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแก้ไขปัญหา "เฉพาะหน้า" ทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าฉุกเฉินในวันที่ 5 เมษายน เพิ่มเป็น 1,470 เมกะวัตต์ สามารถรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ไม่เกิดวิกฤติไฟฟ้าดับ
ในระยะยาวกระทรวงพลังงานได้ปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าพีดีพี (2013) เพื่อนำแผนการผลิตไฟฟ้าไปใช้ในช่วงปี 2556-2573 โดยจะลดการพึ่งก๊าซธรรมชาติมาผลิตไฟฟ้า จากปัจจุบันที่ใช้ถึง 70% ให้เหลือเพียง 45% ด้วยการหันไปใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้า จากเดิม 18% เพิ่มเป็น 20% รวมถึงพลังงานน้ำจากเขื่อน ซึ่งจะมีการซื้อไฟจากต่างประเทศเพิ่มจาก 10% เป็น 15% และพลังงานทดแทนคงที่ไว้ 20%
จากแผนการกระจายความเสี่ยงการผลิตไฟฟ้าหันไปพึ่งไฟฟ้าจากถ่านหินมากขึ้น ทำให้เกิดเสียงคัดค้านจากองค์กร เอกชนหลายแห่ง ซึ่งเกรงว่าจะไม่สามารถ ผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้ ส่วนไฟฟ้าจากพลังน้ำก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมมากนัก
แม้ที่ผ่านมาในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ พม่า สปป.ลาวและกัมพูชา ได้เสนอตัวลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน พลังน้ำ และปรมาณู แล้วใช้ไทยเชื่อมโยงระบบสู่ภูมิภาคอาเซียน ก็ตาม
มองลู่ทางความเป็นไปได้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนดูพอจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่บ้าง จากนโยบายของกระทรวงพลังงาน ภายใต้การกำกับดูแลของนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นั่นคือ การผลักดันพลังงานทดแทนจากหญ้าเนเปียร์ และพลังงานแสงอาทิตย์จากบ้านเรือน
จะเห็นว่าพลังงานทดแทนในสัดส่วน 20% นำไปผลิตไฟฟ้า จะมาจากการผลิตก๊าซจากชีวมวล ที่มาจาก "หญ้าเนเปียร์" ถึง 15% เพื่อนำไปเข้าสู่ระบบการผลิตไฟฟ้าตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องผลิตไฟฟ้าให้ได้ 10,000 เมกะวัตต์ ภายใน 10 ปี
ล่าสุด มีผู้สนใจลงทุนพลังงานทด แทนจากหญ้าเนเปียร์แล้ว 100 ราย...!
การขับเคลื่อนจะเป็นลักษณะโครง การวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน ตามแผนจะให้วิสาหกิจชุมชน ปลูกหญ้าพลังงาน โดยให้เกษตรกรปลูกจำนวน 800-1,000 ไร่ ผลผลิต 35-40 ตันต่อไร่ ประกันราคารับซื้อ 300 บาทต่อตัน คาดว่าจะมีหญ้าเข้าสู่ระบบวันละ 120 ตัน จากนั้นจะนำไปผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อแปลงเป็นไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน แห่งละ 100 ล้านบาท ผลิตไบโอแก๊สวันละ 12,000 ลูกบาศก์เมตร ผลิตไฟฟ้าได้วันละ 24,720 หน่วย จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หน่วยละ 4.50 บาท ทำไปผลิตก๊าซ CBG เพื่อทดแทน LPG ได้ นอกจากนี้ ยังได้ปุ๋ยกลับสู่เกษตรกรอีกวันละ 12 ตัน
และโปรเจกต์ "เหล้าเก่าในขวดใหม่" ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน นายพงษ์ศักดิ์ มีนโยบายส่งเสริมให้มีการผลิตในภาคครัวเรือนอย่างจริงจัง
"โซลาร์ รูฟ ท็อป ที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงานและบ้านเรือนประชาชน ผมได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาถึงปัญหาอุปสรรคเพื่ออำนวยความสะดวกการขอใบอนุญาตในการติดตั้งแผงโซลาร์ การออกระเบียบให้ง่ายขึ้น รวมถึงขั้นตอนในการซื้อขายไฟฟ้า เพราะว่าปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการคิดภาษีในการซื้อขาย รวมถึงตัวโซลาร์มีมอเตอร์เกี่ยวกับโรงงาน ต้องการใบอนุญาต รบ.4 ทำให้เกิดความยุ่งยาก ซึ่งจำเป็นจะต้องแก้ไขกฎระเบียบหรือข้อยกเว้น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
จากนโยบายดังกล่าวถูกนำไปสู่การปฏิบัติในการ "ปลดล็อก" เพื่อให้เกิด การจูงใจการลงทุนของประชาชน โดยนายอำนวย ทองสถิตย์ อธิบดีกรมพัฒนา พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ได้ใช้เงินจากกองทุนฯ จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเข้าร่วมโครงการโซลาร์ รูฟ ท็อป นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนประชาชนในลักษณะเช่าซื้อ เพื่อให้การติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านเรือน
"มาตรการส่งเสริมการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านจะหาผู้สนับสนุนด้วยวิธีเช่าซื้อ ซึ่งตอนนี้มีธนาคารหลายแห่งแสดงความสนใจแล้ว เป็นลักษณะการออกเงินให้ก่อนแล้วค่อยผ่อนคืนภายหลัง ภาครัฐจะเป็นฝ่ายดูแลดอกเบี้ยให้" อธิบดี พพ. กล่าว
ส่วนปัญหาการติดตั้งมอเตอร์ที่บ้าน เรือนผิดกฎหมายโรงงานอุตสาหกรรม นั้นอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วเตรียมเสนอผ่านความเห็นจากคณะรัฐมนตรีเป็นลำดับต่อไป
"โซลาร์ รูฟ ท็อป" ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที นอกจากมาตรการอัดฉีดจากภาครัฐบาลแล้ว วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มูลค่าการลงทุนถูกลง
โดยการติดตั้งอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคาบ้านขนาด 3 กิโลวัตต์ ราคาจะอยู่แค่ 200,000 บาท และบ้านแต่ละหลังมีความเหมาะสมลงทุนอยู่ที่ 5 กิโลวัตต์เท่านั้น จึงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่คนไทยจะเป็นเจ้าของพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ