เผยตัวเลขรถยนต์ใช้ก๊าซ NGV เพิ่มขึ้นปี 55 ทะลุเป็น 374,850 คัน หรือมียอดรถใหม่เพิ่มวันละ 250 คัน ส่งผลต่อความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นถึง 8,000 ตันต่อวัน ปตท.เพิ่มกำลังการจ่ายที่สถานีหลัก 20% แนะรถบ้านหลีกทางให้แท็กซี่เติมก๊าซเวลาเร่งด่วน เตรียมทุ่มอีก 5,000 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตและสร้างสถานีบริการใหม่ คาดสิ้นปีทะลุ 500 สถานี ขณะที่ยังแบกภาระขาดทุนสะสมอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 ปตท.มีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้รถ NGV อย่างทั่วถึง เพื่อส่งต่อความสุขและความสะดวกสบายในการใช้ NGV ผ่านการบริหารจัดการทุกรูป แบบ ทั้งการเพิ่มจำนวนสถานีบริการ NGV และการเพิ่มปริมาณการจ่ายก๊าซของสถานีหลักฯ ตลอดจนกำหนดให้มีการขาย ก๊าซ NGV รูปแบบใหม่ให้กับผู้ประกอบ การขนส่งที่ใช้ก๊าซเองภายในกลุ่ม ประกอบด้วยการเพิ่มกำลังการจ่ายก๊าซของสถานีหลักจ่ายก๊าซ ในปี 2556 อีก 1,646 ตันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2555 รวมทั้งเมื่อการดำเนินการโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 4 และขยายแนวท่อส่ง ก๊าซไปยังจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 จะทำให้ก๊าซ NGV พร้อมให้บริการ เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการการใช้บริการ NGV ในเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการใช้ก๊าซ NGV สูงถึง 45% ของปริมาณใช้ก๊าซทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 12.00-16.00 น. เป็นเวลาเร่งด่วนของกลุ่มรถแท็กซี่รับจ้างสาธารณะที่ต้องการเติมก๊าซฯ ส่งให้ผู้ใช้รถ NGV ประสบปัญหารอคิวเติมก๊าซ หรือก๊าซไม่เพียงพอในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยมาตรการ ดังนี้
เปิดสถานีบริการ NGV ใหม่ในพื้นที่มีปัญหารอคิวเติมก๊าซฯ จำนวน 7 แห่ง และเพิ่มหัวจ่ายเติมก๊าซในสถานีบริการ NGV จำนวน 2 แห่ง จัดสรรก๊าซพร้อมจัดหารถขนส่งก๊าซเพิ่มขึ้นให้กับสถานีบริการ NGV ที่ประสบปัญหาดังกล่าว พร้อมกับรณรงค์ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รถ NGV ทั่วไป หลีกเลี่ยงการเติมก๊าซในช่วง เวลาเร่งด่วนของกลุ่มรถแท็กซี่รับจ้างสาธารณะ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้รถ NGV ทุกกลุ่มร่วมกัน รวมทั้งพัฒนาระบบ จราจรภายในสถานีและจัดพนักงานบริหาร คิวรอเติมก๊าซในช่วงเวลาเร่งด่วน
นายไพรินทร์ กล่าวอีกว่า เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งลงทุนธุรกิจ NGV แบบครบวงจรเป็นของตนเอง ตั้งแต่การเชื่อมต่อท่อส่งก๊าซ จัดทำสถานีหลักจ่ายก๊าซ ระบบขนส่งก๊าซ และสถานี เติมก๊าซ โดยปตท.กำหนดจุดซื้อขายก๊าซ NGV ณ แนวท่อส่งก๊าซฯ ด้วยคุณภาพก๊าซสูง "พรีเมี่ยมเกรด" และคิดราคาจำหน่ายตามค่าความร้อนของก๊าซ ซึ่งช่วย ให้ผู้ประกอบการขนส่งมีก๊าซเติมเพียงพอ ไม่ต้องรอคิวเติมก๊าซที่สถานีบริการ และยังส่งผลให้สถานีบริการทั่วไปมีก๊าซให้บริการแก่ผู้ใช้บริการรถ NGV ทั่วไปเพิ่มขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานธุรกิจ NGV ในปี 2555 ปตท.ได้ขยายกำลังการจ่ายก๊าซของสถานีหลัก เพิ่มขึ้นเป็น 5,265 ตันต่อวัน และเพิ่มจำนวนสถานีบริการ NGV เป็น 483 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ปตท.ยังได้พัฒนาการบริหารจัดการระบบขนส่งก๊าซทางรถยนต์จากสถานีหลักจ่ายก๊าซไปยังสถานีนอกแนวท่อส่งก๊าซให้สามารถ ขนส่งได้ในปริมาณมากขึ้นในแต่ละรอบการขนส่งด้วย โดยในปี 2555 มีจำนวนรถ NGV เพิ่มขึ้น 74,300 คัน ทำให้มีจำนวนรถ NGVสะสมในปี 2555 เป็น 374,850 คัน ด้วยปริมาณการใช้ก๊าซ NGV ถึง 8,000 ตันต่อวัน
"ปัจจุบันปตท.มีสถานีบริการ NGV อยู่ 483 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นเกือบ 500 แห่งสิ้นปีนี้ และเพื่อแก้ไขปัญหาสถานีก๊าซ NGV ที่ยังไม่ครอบคลุมในทุกภาคและลดปัญหาการรอคิวเติมก๊าซนานซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนใน 1-2 เดือนนี้ โดยจะใช้เงิน ลงทุนสำหรับแผนดังกล่าวประมาณ 5,000 ล้านบาท ตอนนี้มีความต้องการใช้ก๊าซ NGV อยู่ที่ 8,600 ตันต่อวัน คาดว่าถึงสิ้นปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ตันต่อวัน เนื่อง จากปริมาณรถยนต์ NGV เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 250 คัน วันนี้มีรถยนต์ NGV ประมาณ 374,850 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถขนาดเล็กที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 200,000 คัน เป็น 250,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 28%"
ทั้งนี้ ปตท.จำหน่ายก๊าซราคาต่ำกว่า ต้นทุนทำให้ปี 2555 ต้องแบกรับภาระขาดทุนอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท รวมภาระขาดทุนสะสม 6 หมื่นล้าบาท คาดว่าปี 2556 จะขาดอีกเพิ่มเป็น 14,000 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2557 คาดว่า ปตท.ต้องแบกรับ ภาระขาดทุนถึง 1 แสนล้านบาท เนื่องจากมีจำนวนรถใช้ก๊าซ NGV เพิ่มขึ้น