นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ BIG เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดโรงงานผลิตก๊าซไฮโดรเจนแห่งใหม่ที่มีกำลังผลิตสูงสุดในประเทศไทยอย่างเป็น ทางการ ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มูลค่ากว่า 500 ล้านบาทใน การสร้างโรงงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย จากสหรัฐฯ ด้วยคุณภาพครอบคลุมทุกความต้องการและมาตรฐานความปลอดภัย สูงสุดด้วยกำลังการผลิต 13,000 Nm3/hr ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย กำลังการผลิตรวม 2 โรงงานกว่า 30,000 Nm3/hr เจาะกลุ่มลูกค้าโรงกลั่นน้ำมันเพื่อปรับให้น้ำมันเชื้อเพลิงมีความบริสุทธิ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน EURO4 และอุตสาหกรรมยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, ปิโตรเคมี, เคมี และอาหารและเครื่องดื่ม
"บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Innovative, Green และ Clean กล่าวคือ มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ตอบสนอง ความต้องการด้านอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และผู้บริโภคไทย พร้อมไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน ด้วยกระบวน การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งกระบวนการผลิต"
ทั้งนี้ BIG มีเครือข่ายการจัดส่งที่กว้างขวางและครบวงจรทั้งในรูปแบบ pipeline ที่ต่อจากโรงงาน BIG ไปยังโรงงานของลูกค้า, ทางรถบรรทุก และทาง ท่อก๊าซอัดความดันสูง เมื่อประกอบกับเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญด้านไฮโดรเจน มาตรฐานโลกที่ได้รับการถ่ายทอดจากบริษัทแม่ Air Products and Chemicals Inc. สหรัฐฯ แล้ว BIG จึงเป็นผู้นำนวัตกรรมไฮโดรเจนของประเทศไทย
สำหรับพลังงานไฮโดรเจนคือ พลัง งานรูปแบบใหม่ด้วยคุณสมบัติที่สะอาดเป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด เป็นเชื้อเพลิงอเนกประสงค์ที่จะมีบทบาทสำคัญในวงการพลังงานในอนาคตที่ต้อง การพลังงานที่สะอาด และมีความยั่งยืนใน ระยะยาว ปัจจุบันมีการนำไฮโดรเจนไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันได้จริงและหลากหลายขึ้น อาทิ ไฮโดร-เจนในอุตสาหกรรมกลั่นน้ำมัน เพื่อทำให้น้ำมันที่ถูกกลั่นออกมามีปริมาณกำมะถันที่ลดลงให้อยู่ในระดับตามข้อกำหนดกระบวนการกลั่นน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 การพัฒนาก๊าซไฮโดรเจน เพื่อนำมาใช้ ในการขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิง (Hydrogen Fuel Cell) ซึ่งอาศัยกระบวนการทางเคมีไปก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่สามารถ ใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนได้ โดยที่ไม่ต้องอาศัยการเผาไหม้ ซึ่งเป็นตัวการให้เกิดมลภาวะไอเสียทางอากาศ โดยกำลังเป็นที่ตื่นตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยตามแผนพัฒนาพลังงานในสหรัฐฯ ได้มีการวางแผนว่า ในปี 2015 จะผลักดันให้รถยนต์ในประเทศใช้พลัง งานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้มากขึ้น นอกเหนือจากนั้น BIG ยังมีแอพพลิเคชั่นเทคโนโลยีที่จะนำไฮโดรเจนเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพของ CNG ในการใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะและช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะกลายเป็นพลัง งานสะอาดทางเลือกใหม่อีกชนิดหนึ่ง
"ราคาไฮโดรเจนในประเทศไทยจะใกล้เคียงกับราคาก๊าซ NGV ซึ่งจะถูกกว่า สหรัฐฯ เพราะว่าต้นทุนวัตถุดิบของประเทศ ไทยมาจากโรงกลั่นของ ปตท. แต่ที่สหรัฐฯ จะได้ไฮโดรเจนมาจากการนำก๊าซธรรม-ชาติไปเผา ทำให้มีราคาสูง ซึ่งคาดว่าแนว โน้มตลาดไฮโดรเจนจะได้รับความนิยมไม่แพ้พลังงานทางเลือกอื่น ถ้ารัฐบาลให้ การสนับสนุนอย่างจริงจัง"
นายปิยบุตร กล่าวว่า กระทรวงพลัง งานได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ด้านพลัง งานไฮโดรเจนและเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไว้ โดยวางวิสัยทัศน์ไว้ว่า พลังงาน ไฮโดรเจนเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด มีความยืดหยุ่น ผลิตได้จากแหล่งทรัพยากรที่มีอยู่มากมายในประเทศ โดยมีการใช้ อย่างปลอดภัยในอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน และครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2573 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยืนยันความมั่นใจของบริษัทในการเล็งเห็นปริมาณความต้อง การที่เพิ่มสูงขึ้นของลูกค้าของเราทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน กลุ่มเคมี กลุ่ม งานโครงสร้างเหล็ก กลุ่มอาหารและเครื่อง ดื่ม เรามั่นใจว่าจะสามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของลูกค้าทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตที่จะขยายสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
"ในเร็วๆ นี้ทางบริษัทจะขอหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อขอทราบแนว ทางการส่งเสริมไฮโดรเจน ซึ่งทางบริษัทต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนพลังงานทางเลือกลุ่มนี้อย่างจริงจัง โดยทางบริษัทยินดีเป็นต้นแบบพลังงานไฮโดรเจนอย่างครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์หลาย ค่ายเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว เช่น โตโยต้า ฮอนด้า และเจเนอรัล มอเตอร์ส เช่นเดียวกับการสร้างสถานีบริการไฮโดรเจน ก็มีการ เตรียมเทคโนโลยีไว้รองรับแล้ว ซึ่งแต่ละแห่งใช้เงินลงทุนประมาณ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ"
สำหรับปี 2555 BIG มีผลประกอบการประมาณ 5,300 ล้านบาท คาดว่าในปี 2556 ตลาดจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10%