กระทรวงพลังงานภายใต้การถือธงนำของ "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะคิกออฟทยอยการปรับขึ้น ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ภาคครัวเรือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 เป็นต้นไป โดย ปรับจากราคา 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ให้เท่า กับราคาที่จำหน่ายให้กับภาคขนส่งที่เพดานประมาณ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาปรับขึ้นราคาทั้งภาคครัวเรือนและภาคขนส่งไปพร้อมๆ กัน ให้อยู่ที่ระดับราคา 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคา ที่มีความเหมาะสม
และเพื่อรองรับผลกระทบกับประชาชนผู้มี รายได้น้อยจะมีมาตรการช่วยเหลือแบ่งออกเป็น ประชาชนทั่วไปจะโอนเงินให้กับผู้ใช้ ก๊าซ LPG สูงสุดไม่เกินเดือนละ 36 บาท พ่อค้า แม่ค้าหาบเร่ และแผงลอย จะใช้วิธีการ แจกบัตรส่วนลดเพื่อซื้อก๊าซ LPG ในราคาเท่าเดิม
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า มีผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน อยู่ที่ 7.12 ล้านราย หรือคิดเป็นประชาชนที่ได้รับการอุดหนุน 14 ล้านคน กลุ่ม พ่อค้า แม่ค้าหาบเร่ และแผงลอย มีประมาณ 5 แสนราย แต่มีข้อมูลส่งมาให้พิจารณาเพียง 1 แสน รายเท่านั้น ดังนั้น กระทรวงพลังงานจะให้การอุดหนุน กลุ่มนี้เท่าที่ได้รับข้อมูลมา
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน นี้ จะทยอยปรับขึ้นก๊าซ LPG เดือนละ 50 สตางค์ เป็นระยะเวลา 12 เดือน เพื่อให้ราคาไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม การช่วยเหลือในกลุ่มของผู้ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน จำนวน 7.4 ล้านราย จะชดเชยด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งอัตราการชดเชยจะให้รายละ 6 กิโลกรัมจากส่วนต่างที่จะปรับขึ้นเดือนละ 50 สต. เป็นเวลา 12 เดือน หรือปรับขึ้นอีก 6 บาท คิดเป็นเงินที่ชดเชยให้ 36 บาทต่อเดือน
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาคัดค้านการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG โดยนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะมีมติลอยตัวก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือน เรื่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ โดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นครั้งละ 50 สตางค์ จนครบ 6 บาท ใน 1 ปี ซึ่งจะ เท่ากับราคาในภาคขนส่ง และจากนั้น จะปล่อยให้ก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนและขนส่งไปเท่ากับภาคอุตสาหกรรม โดยการอิงราคากับตลาดภายนอกประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่คนที่มีส่วนได้ส่วน เสียกับรัฐบาลจะได้รับประโยชน์
"ปชป.ขอแสดงจุดยืนคัดค้านการปรับขึ้นก๊าซ LPG เพราะว่าประเทศไทยมีก๊าซ LPG เป็นของตัวเองในอ่าวไทยเพียงพอต่อคนในประเทศ การบริหารจัดการจึงไม่จำเป็นต้องอ้างอิงกับราคาในตลาดโลก การดำเนินการเรื่องนี้ของรัฐบาลส่อให้เห็นความไม่ชอบมาพากล เพื่อทำให้ผลประโยชน์ตก อยู่กับผู้มีบุญคุณหรือผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาล" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การออกมาแสดงจุดยืนของ ปชป. ครั้งนี้ ทำให้สังคมสงสัยว่า กลัวพรรคเพื่อ ไทยจะได้คะแนนนิยมจากประชาชนหรือไม่ เพราะ วันนี้สถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐกำหนดต้นทุนการผลิต ไว้ที่ 333 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 10.26 บาท ต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ราคาโรงแยกมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 550 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 16.96 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีก 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคา CP หรือราคาประมาณการในปี 2556-2557 ต้นทุนการผลิตอยูที่ 900 เหรียญสหรัฐ หรือ 27.76 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ 36.35 บาทต่อกิโลกรัม
ส่วนการพึ่งพาก๊าซ LPG ในประเทศจะมีไม่เพียงพอหลังจาก 10 ปีจากนี้เป็นต้นไป ถ้าหาก ไม่สามารถขุดพบแหล่งก๊าซ LPG ได้เพิ่มเติม
คำถาม...ถ้าไม่ปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG รัฐบาลจะต้องอุดหนุนตลอดไป โดยตั้งแต่ปี 2551-2555 รัฐบาลแบกรับภาระชดเชย ไปแล้ว 120,590 ล้านบาท เฉพาะปี 2555 ยอด เงินอุดหนุนพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 47,214 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งทำให้เกิดขบวนการลักลอบนำก๊าซ LPG ออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน
คำถาม...การปรับขึ้นราคา LPG เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยผู้ใช้จะต้องแบกรับภาระราคาเหมือนกับผู้ใช้น้ำมันทั่วๆ ไป
ทั้งสองคำถามเชื่อว่าน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วสำหรับคนที่เลือกประชาชนเป็นที่ตั้ง