นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยในโอกาสจัดงานวันสถาปนา กฟผ.ครบรอบ 44 ปี ว่า 44 ปีที่ผ่านมา กฟผ.ได้พัฒนาแหล่งผลิตไฟฟ้า และระบบส่งตอบสนองการใช้ไฟฟ้าของประเทศ และประชาชนอย่างเพียงพอไปพร้อมกับการดำเนินงานที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าไทยมีเป้าหมายสำคัญจะดำเนินการ 3 ประการ ได้แก่ 1.การผลักดันการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีการกระจายการใช้เชื้อเพลิงอย่างเหมาะสม เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติพลังงานจากการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าสูงถึง 70% ด้วยการส่งเสริมเชื้อเพลิงชนิดอื่น เช่น ถ่านหิน 2.เพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดและไม่สามารถใช้เป็นโรงไฟฟ้าหลักได้ แต่กฟผ.ยังคงพัฒนาเพื่อนำร่องให้เกิดการต่อยอดจากภาคเอกชน 3.เตรียมแผนรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ได้ แต่มีความเสี่ยงด้านพลังงาน 4.การปรับปรุงและขยายระบบส่งเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าอาเซียนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558
นายสุทัศน์ กล่าวว่า กฟผ.มีแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า ปี 2556-2560 จำนวน 3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโรงไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟ้าวังน้อย 4 โรงไฟฟ้าจะนะ 2 โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ 2 โรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน หน่วยที่ 4-7 โรงไฟฟ้าลำตะคอง หน่วยที่ 3-4 และโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ 800 เมกะวัตต์ จังหวัดกระบี่ ซึ่งได้เปิดรับฟังความคิดเห็นกับประชาชนแล้ว 2 ครั้ง และประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการ แต่มีประชาชนบางส่วนแสดงความกังวลต่อผลกระทบด้านสุขภาพ กฟผ.จึงจะให้หน่วยงานกลางเข้าไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นกับประชาชนครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนโครงการระบบส่งไฟฟ้า ประกอบด้วย โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า TS 11-12 โครงการระบบส่งไฟฟ้า กรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าเสื่อมสภาพ โครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรับซื้อไฟฟ้าในและต่างประเทศ
"เพื่อเพิ่มความพร้อมด้านพลังงานไฟฟ้าและศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โครงการหนึ่งที่มีความสำคัญคือ โครงการเชื่อมโยงระบบส่งไฟฟ้าอาเซียน หรือ ASEAN Power Grid เป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์อาเซียน 2563 ที่ได้เริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2543 มีเป้าหมายเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในด้านพลังงานของประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"