"ไทยโพลีคอนส์" รุกประมูลงานใหญ่ ขยายลงทุนสู่ผู้นำโรงไฟฟ้าชีวมวล

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556



"ไทยโพลีคอนส์" ปลื้มรายได้ขายไฟจากโรงไฟฟ้าชีวมวลได้ตามเป้าหมาย ขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงาน สู่ความเป็นผู้นำด้านโรงไฟฟ้าชีวมวล ลงทุนศึกษาพัฒนาโครงการอสังหาฯเพิ่มเติม วางแผนตั้งบริษัทเทรดดิ้ง รองรับ AEC มุ่งสินค้าที่มีกำไรและตลาดที่แน่นอน ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงานและบริหารต้นทุนให้ทุกธุรกิจ วางแผนประมูลงานใหญ่ปีนี้อีกกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 25-30%
นายไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจพลังงานของ TPOLY เริ่มมีรายได้ขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าช้างแรก โรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท โดยรายได้จากการขายไฟตั้งเป้า 170-180 ล้านบาท คาดการณ์ กำไรสุทธิที่ 27-30% โดยบริษัทมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระยะสั้นของบริษัทที่ต้องการมีโรงไฟฟ้า 100 MW ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทางด้านโรงไฟฟ้าชีวมวลในอนาคต โดยทางบริษัทได้เริ่มศึกษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาวอีก 3 โครงการโดยมีกำลังการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 100 เมกะวัตต์
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จโครงการ Green wich ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดี บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการต่างๆ
นอกจากนี้ TPOLY ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ปี 2558 เนื่องจากหากมีการเปิดเสรี AEC จะทำให้ตลาดมีขนาดใหญ่และเติบโตขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าและบริการมากขึ้น โดยได้จัดตั้งบริษัทเทรดดิ้ง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดดังกล่าว ในช่วงแรกจะมุ่งเน้นสินค้าที่มีกำไรและตลาดที่แน่นอน รวมถึงการวางกลยุทธ์ให้ทุกภาคส่วนธุรกิจมีส่วนช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน (Synergy) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
"จุดเด่นของบริษัทคือทำธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของความตรงไปตรงมา และเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ เมื่อลูกค้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทและซึมซับปรัชญาของบริษัท จึงเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจที่จะดำเนินโครงการร่วมกันต่อไปในอนาคต"
นายไชยณรงค์ กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านของการมุ่งเน้นภาคส่วนของตลาด (Focus Strategy) โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งในส่วนของการก่อสร้างและลดต้นทุน รวมถึงการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้นในส่วนของธุรกิจพลังงาน โดยบริษัทมีแผนที่จะรับงานขนาดใหญ่ทั้งลูกค้าภาครัฐและเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าภาครัฐประมาณ 49% และภาคเอกชน 51%
"ตัวอย่างเช่น เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ทางภาคใต้ และสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีคู่แข่งน้อย ความเข้าใจและเชี่ยวชาญในพื้นที่ทำให้รู้ว่าต้องบริหารจัดการอย่างไร จึงจะมีต้นทุนที่ต่ำ และผลดีต่อกำไรสุทธิของบริษัท เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และนอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมติให้ออกเสนอขายตั๋วเงินระยะสั้น ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 270 วัน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต"
สำหรับผลประกอบการล่าสุดในไตรมาสแรกปี 2556 พลิกกลับมามีกำไร 7.44 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่บริษัทขาดทุนเท่ากับ 188.37 ล้านบาท จากการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ ในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และบริษัทมีนโยบายที่จะรับงานขนาดใหญ่มากขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้สูงขึ้น และลดความเสี่ยงต่อหนี้สูญ โดยปีนี้วางแผนร่วมประมูลงานใหญ่อีกกว่า 10,000 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้รับงานประมาณ 30% ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 25-30%


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ