Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์74จังหวัด อาคารภาครัฐ 5,298 แห่งถูกหวย
ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์74จังหวัด อาคารภาครัฐ 5,298 แห่งถูกหวย
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
กระทรวงพลังงาน : กองทุนฯ อนุมัติ 1.8 พันล้านบาท หนุนใช้พลังงานทดแทน รุกเดินหน้าติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารภาครัฐ คาดช่วยประหยัดพลังงาน 476 ล้านบาท/ปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก-ไซด์ ได้ประมาณ 18,980 ตัน/ปี
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะ ประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผย ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติเงินกองทุนฯ จำนวน 1,847 ล้านบาท ให้กระทรวงพลังงานไปดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับอาคารภาครัฐ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลัง งานทดแทนที่มีความเหมาะสมในการสนับสนุนเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าลดค่าใช้จ่ายและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ.2555-2564) เท่ากับ 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินการส่งเสริมระบบขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ในชุมชนและระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้ได้ 1,000 เมกะวัตต์ใน 10 ปี โดยพิจารณาติดตั้งระบบดังกล่าวใน อาคาร บ้านเรือน บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนัก งานและอาคารภาครัฐ เป็นต้น
ปัจจุบันอาคารภาครัฐกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 5,298 แห่ง มีการใช้ พลังงานในภาพรวมประมาณ 673 ล้านหน่วย/ปี หรือปีละ 57 ktoe ซึ่งภาครัฐมีภาระค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าในอาคารภาครัฐกว่า 2,500 ล้านบาท/ปี ดังนั้นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) จะสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ในอาคารภาครัฐได้เองและยังสามารถช่วยตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในช่วงกลางวัน (Peak load) อีกด้วย
สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งเป้าหมายติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารศาลากลางจังหวัดในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาคทั้ง 74 จังหวัด และหลังคาอาคาร ของรัฐในเขตจังหวัดในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้ง 74 จังหวัด เช่น อบต. เทศบาล ฯลฯ รวมทั้งสิ้นประมาณ 25 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีจำนวนตำบลมากกว่า 180 ตำบล จำนวน 8 จังหวัด รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ จังหวัดขนาดกลางที่มีจำนวนตำบลระหว่าง 90-180 ตำบล จำนวน 27 จังหวัดรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 10.5 เมกะวัตต์ และจังหวัดขนาดเล็ก ที่มีจำนวนตำบลน้อยกว่า 90 ตำบลจำนวน 39 จังหวัดรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 8.5 เมกะวัตต์
"สำหรับการดำเนินการติดตั้งระบบ ผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลัง คานำร่องในอาคารของรัฐในภูมิภาคในครั้งนี้ กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่า จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 36.5 kwh/ปี คิดเป็นเงินประหยัดได้ปีละ 146 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงใน การผลิตไฟฟ้าประมาณ 11 ล้านลิตร/ปีหรือปีละประมาณ 330 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ประมาณ 18,980 ตัน/ปี ลดการ ปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sox) ได้ประมาณ 5 ตัน/ปี และลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ได้ประมาณ 52 ตัน/ปี" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบอนุมัติงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์ พลังงาน (พพ.) ดำเนินโครงการศึกษาวิจัย ต้นแบบ "วิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน (ก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน)" เพื่อส่งเสริมให้นำพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกต่างๆ ในชุมชนที่มีศักยภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะช่วยประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงาน ยังเป็นการช่วยสร้างอาชีพที่มีรายได้ มั่นคง ยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตรทำการปลูกพืชพลัง งาน โดยมีสัญญาซื้อขายพืชพลังงานกับโรง งานผลิตก๊าซชีวภาพ โดยก๊าซชีวภาพที่ได้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ใน 3 รูปแบบคือ ผลิตไฟฟ้า ผลิตก๊าซชีวภาพอัด (Compress Bio Gas : CBG) และนำไปใช้เป็นก๊าซหุงต้มแทนก๊าซแอลพีจี (LPG) นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลโครงการวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน (One Stop Service) ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการข้อมูลและประชาสัมพันธ์โครงการฯ ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน พร้อมจัดตั้งต้นแบบโครงการวิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน เพื่อให้การสนับสนุนภาคเอกชนนำไปขยายผลต่อไป
"กระทรวงพลังงานคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว นอกจากจะทำ ให้มีการผลิตและใช้พลังงานทดแทนอย่าง กว้างขวางแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมสร้าง ความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศ และยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกพืชพลังงานอย่างน้อย 3,500 บาท/ไร่/ปี" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
อาร์อีเอส รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ โซลูชั...
...
กรมพัฒนาธุรกิจฯ ฉลองความสำเร็จ The Influ...
...
THECA 2025 เร่งปั้นบุคลากรคุณภาพ ตอบโจทย...
...
" วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค" จัดงาน 'Thail...
...
“กระทรวงอุตสาหกรรม” จัดสัมมนารับฟังความค...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ