ฮิตติดชาร์ตขึ้นแท่น "Risk Manager" ระดับแถวหน้าของประเทศไทยไปแล้ว สำหรับ "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน การันตีผลงานจากการบริหารพลังงานประเทศไทยในภาวะวิกฤติจนผ่านพ้นได้สะดวกโยธิน ทั้งกรณีพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติช่วงสงกรานต์ และเหตุการณ์สุดระทึกไฟฟ้า ดับ 14 จังหวัดภาคใต้ "ฝีมือ" ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
"ผมต้องขอชื่นชมท่านรัฐมนตรีว่า การกระทรวงพลังงานว่า เป็นผู้มีความรู้ และเข้าใจพลังงานของประเทศเป็นอย่างดี แม้ทำงานในตำแหน่งนี้มาเพียง 6 เดือน แต่รอบรู้เหมือนอยู่มานานถึง 6 ปี" มนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวยอมรับชั้นเชิงการบริหาร ของ "เฮียเพ้ง"
ด้วยความเป็นผู้ "ใฝ่รู้" และสนใจ "ค้นคว้า" ข้อมูลทางด้านพลังงานตลอด เวลา นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อบวกกับความรู้ทางด้าน "วิศวะ" ที่มีพื้นฐานอยู่แล้ว จึง รู้แจ้งแทงตลอดเห็น "จุดอ่อน" พลังงานของเมืองไทย โดยเฉพาะอยู่ภายใต้การ บริหาร "ระบบราชการ" ที่มักใส่เกียร์ว่างรอเวลา "เปลี่ยน" หน้ารัฐมนตรีคนใหม่ จึงทำให้ปัญหาด้านพลังงานถูก หมักหมมมานานไม่ได้รับการแก้ไขปีแล้วปีเล่า ผสมผสานกับขบวนการปั้น "ข้อมูลเท็จ" จึงกลายเป็น "ระเบิดเวลา" วิกฤตการณ์ความมั่นคงทางด้านพลังงาน
เป็นที่มาของนโยบาย "ขบวนการเรียนรู้เรื่องพลังงานสู่ประชาชน" เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนผ่านผู้นำชุมชน วิทยุชุมชน และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ซึ่งจะทำ ให้ประชาชนรู้ข้อเท็จจริงด้านพลังงาน เลิก ถูกชักจูงกลายเป็นเครื่องมือในการเคลื่อน ไหวต่อต้านการสร้าง "แหล่งผลิตพลังงาน" เอาไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ในอนาคต
ขณะเดียวกันการทำงานของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานต้อง "ปรับวิธีคิด" ใหม่ เริ่มตั้งแต่ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรผ่านโครงการ CSR ซึ่งแต่ละหน่วยงานสูญเสียงบประมาณส่วนนี้ไปแต่ละปีมหาศาล แต่ชุมชน กลับไม่ได้อะไรเลย เช่น CSR ของกฟผ. ถือว่าล้มเหลวมีการใช้เงินปีละ 300 ล้านบาท แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ถ้าปรับวิธีคิดใหม่สามารถสร้างมูลค่ากลับมาได้อีกเท่าตัว ผ่านขบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน รอบๆ โรงไฟฟ้า อย่างที่ "บางจาก" ทำประสบความเร็จมาแล้ว
การล้างบางมาเฟียลักลอบนำก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนไปขายภาคขนส่ง เพื่อ ฟันส่วนต่างจากโครงสร้างพลังงานที่กำหนด ราคาแตกต่างกันใกล้งวดเข้ามาทุกขณะ จากก่อนหน้า "กรมธุรกิจพลังงาน" เล่นบทเตมีย์ใบ้ ตอนนี้เริ่มคายข้อมูลออกมาด้วยการจำนนข้อมูลของกองปราบ ทำให้ เห็นอนาคตการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แจ้งจริง จะได้เลิก "ปล้นคนจน" เสียที หลังจากพายเรือในอ่าง เกิดโรคเลื่อนแล้ว...เลื่อนอีก...
และในเร็ววันนี้ประชาชนจะได้ใช้น้ำมัน "ราคาเดียว" ทั่วประเทศ เพราะรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพลังงานตั้งใจจะเห็นแผนวางท่อส่งน้ำมันมีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เช่นเดียวกับการเร่งผลักดันการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่าน หินสะอาด ซึ่งตามแผน PDP จะต้องเพิ่มอีกประมาณ 1 หมื่นเมกะวัตต์ ที่ผลักดันถ่านหิน เพราะสหัฐฯ หรือจีน ก็เลือกเชื้อเพลิงนี้ สามารถเก็บสำรองได้นาน 6 เดือน เป็นต้นทุนผลิตไฟฟ้าถูกที่สุด มีความเสี่ยงน้อยกว่าจะไปพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากเกินไป
สำหรับเชื้อเพลิงที่จะหายไปเป็นการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากภาค เอกชน เพราะทำให้ต้นทุนไฟฟ้ามีราคา สูงจากการอุดหนุนมากเกินไป และรัฐบาลได้หันไปส่งเสริมการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านแทน เรียกว่าหายใจเข้าหายใจออกเป็น "รากหญ้า" เลยทีเดียว
ปัญหาหมักหมมทั้งหมดที่กล่าว มา "เฮียเพ้ง" เคยเอ่ยปากกับคนใกล้ ชิดว่า ไม่อยากลงไปล้วงลูกเกรงจะถูก ข้อครหาการเมืองแทรกแซง แต่ถ้า ปล่อยให้เกียร์ว่างไปเรื่อยๆ แบบนี้ ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับความมั่นคงพลังงาน เชื่อเหลือเกินว่า "ประชาชน" คงไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว