"ทุนไทย" บุกพม่าผุด "โซลาร์ ฟาร์ม" 2,000 ไร่

วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556



หลังจากพม่าเปิดประเทศได้เพียง ปีเดียว แต่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากสารทิศทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไปลงทุนกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้เข้าไปลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ในพม่า มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้าน บาท โอกาสนี้ "ศุภศิษฎ์ สกลธนารักษ์" กรรมการผู้จัดการ และ "ออง ทีฮา" กรรมการบริหาร ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ "สยามธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าการลงทุน โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
นายศุภศิษฎ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ พม่ายังมีกำลังผลิตชั่วโมงละ 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศไทยที่ผลิตได้ถึง 30,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้พม่ายังขาดพลังงานและจำเป็นต้องสรรหาโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชนิดอื่นเพิ่มเติมในระยะเวลา อันสั้น ซึ่งขณะนี้พม่าให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานพลังงานน้ำมากถึง 76% แต่มีการผลักดันให้ใช้กระแสไฟฟ้าจากโรงงานผลิตไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติถึง 21% จากกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งประเทศพม่าเป็นประเทศที่ยังไม่พร้อมในการบริหารจัดการ พลังงานจากก๊าซธรรมชาติเมื่อเทียบกับประเทศที่มีประสบการณ์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซธรรมชาติและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศไทย และประเทศจีน
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุนของบริษัท พลังงานเพี่อโลกสีเขียว โดยวางแผนที่จะติดตั้งแผงอุปกรณ์โซล่าร์ เซลล์ขนาด 200 MWp (Megawatt Peak) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 350 ล้านกิโลวัตต์ ชั่วโมงเฉลี่ยต่อปี เพื่อรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าของประเทศพม่า โครงการนี้แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกติดตั้งอุปกรณ์ขนาด 50 MWp ระยะที่สอง ติดตั้งอุปกรณ์ขนาด 70 MWp และระยะที่สามติดตั้งอุปกรณ์ขนาด 90 MWp ภายในระยะเวลา 18 เดือน บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ อยู่เมืองมินบู ของรัฐแม็คเวย์ ห่างจากเมืองเนปิดอว์ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 90 ไมล์
"กระทรวงพลังงานของเมียนมาร์ได้จัดสรรและบริหารพื้นที่ และด้วยขนาดของพื้นที่ ขนาดอุปกรณ์ที่ติดตั้งและกำลังผลิตเฉลี่ยของโครงการนี้เมื่อการก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์แล้วเสร็จจะกลายเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกหรือเทียบเท่ากับขนาดของสนามฟุตบอลถึง 650 สนาม กระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานไฟฟ้าแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับแหล่งกำลังส่งตัวนำไฟฟ้าใหม่ของพม่าซึ่งมีขนาด 230KV พื้นที่สำหรับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม เป็นพื้นที่เปิดรับแสงอาทิตย์และเป็นพื้นที่ค่อนข้างแล้ง อีกทั้งจุดของที่ตั้งโครงการดังกล่าวยังอยู่ใกล้กับแหล่งกำลังส่งไฟฟ้าอีกด้วย"
นายศุภศิษฎ์ กล่าวว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ระหว่างการนำเสนอแผนงานโครงการครั้งสุดท้าย โดยแผนงานการเริ่มจ่ายกระแสไฟเพื่อการใช้จะดำเนินการประสานงานกับการวางโครงสร้างขอบข่ายกำลังส่ง 230KV ของกระทรวงพลังงาน ส่วนกระบวนการและขั้นตอนในการศึกษาความเป็นไปได้ การศึกษาและกระบวนการประชาพิจารณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ตลอดจนผลกระทบต่างๆ ได้ดำเนินการและจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ โครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 350 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงเพียงพอต่อความต้องการของประเทศพม่า หากในปีใดมีพลังงานความร้อนจากแสดงอาทิตย์ที่มีค่าสูงกว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถรองรับการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมได้
ด้านนายออง กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของพม่านี้ประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ 275 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,073 ล้านบาท โดยได้รับการ ส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลด้วย ซึ่งผู้สนับสนุนโครงการเริ่มต้นคือผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ได้แก่ มร.พอล เบอร์นาด แยง ร่วมด้วย มร.เดวิด ดับบลิว แยง และ มร. ฮิซาโนริ โคยะ ขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่สำหรับการก่อสร้างได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างได้สำรวจที่ดินและวางแผนการจัดเตรียมเพื้นที่ เช่น การสำรวจ การรังวัด ฯลฯ พื้นที่ได้ออกแบบให้ประกอบด้วยอาคารหลักส่วนควบคุมที่จะดูแล ควบคุมการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
"การลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ยังมีโอกาสอีกมาก เพราะทุกวันนี้พม่ามีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 25% เท่านั้น เหลืออีก 75% ที่ยังใช้น้ำมันดีเซล นอกจากนี้ ค่าไฟฟ้าที่พม่าถูกกว่าประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1.50 บาทต่อหน่วย จากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4-5 บาทต่อหน่วย ดังนั้น ในอนาคตข้างหน้าหลังจากพลัง งานแสงอาทิตย์เดินไปได้ด้วยดีก็มีแผนเตรียมจะขยายการลงทุนพลังงานทดแทน เกี่ยวกับก๊าซชีวภาพ"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ