บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง : RATCH เดินหน้า แผนธุรกิจเพื่อผลิตไฟฟ้าให้ได้ 7,800 เมกะวัตต์ ในปี 2559 รุกคืบลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ อีก 3 แห่ง กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ คาดสรุปผลไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนที่ออสเตรเลียได้รับอนุญาตก่อสร้างโครงการพลังงานลม 180 เมกะวัตต์ และโครงการ พลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 20 เมกะวัตต์ เผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรสุทธิ 3,709 ล้านบาท
นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ วางแผนและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ อีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 45 เมกะ วัตต์ โดยโครงการแรกกำลังอยู่ระหว่างการ ก่อสร้าง คาดว่าจะสรุปผลได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนอีกสองโครงการคาดว่าจะเดินเครื่องได้ภายในปี 2558
นอกจากนี้ ยังเตรียมจะยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าประมูลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแม่คาวารี่ มลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กำลังผลิตติดตั้งรวม 4,640 เมกะวัตต์ ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงไม่หยุดนิ่งในการสร้างความเติบโตให้แก่บริษัท ทั้งในด้านกำลังการผลิตและรายได้ แนวโน้มการลงทุน ของบริษัทในระยะสั้นส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้สัดส่วน รายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันร้อยละ 9 ของรายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนและเกี่ยวเนื่องจะเริ่มมีนัยสำคัญมากขึ้นต่อความมั่นคงและความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด ของบริษัท
นายพีระวัฒน์ กล่าวว่า โครงการใหม่ ที่มีศักยภาพที่บริษัทพิจารณาลงทุนในปีนี้ส่วนใหญ่จะเน้นโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ เพราะหลายประเทศมีเป้าหมายชัดเจนและจริงจังในการส่งเสริมการ พัฒนาพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสลงทุน มาก ปัจจุบันบริษัทมีโครงการลงทุนที่พร้อม ลงทุน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพลังงานลมในออสเตรเลีย 2 โครงการ กำลัง การผลิต 420 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 65 เมกะวัตต์ โดย 1 โครงการมีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย และอีก 3 โครงการกำลังการผลิตรวม 45 เมกะวัตต์อยู่ในประเทศอื่น หาก โครงการเป้าหมายดังกล่าวสำเร็จตามแผน บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2557 และปี 2558 สำหรับเงินลงทุนโครงการดังกล่าวจะ ใช้จากงบลงทุนที่จัดเตรียมไว้แล้วปีนี้
"บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตามแผน ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ 7,800 เมกะวัตต์ ในปี 2559 โดยเตรียมงบลงทุนตั้งแต่ปี 2556-2561 ไว้ประมาณ 2.2 หมื่น ล้านบาท สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลม 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 420 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการแรกขนาดกำลัง การผลิต 180 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้รับใบ อนุญาตก่อสร้างในไตรมาส 3 ในปีนี้ และจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ในปี 2558 ส่วนโครงการที่ 2 คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างต้นปี 2557 และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 1 แห่ง กำลัง การผลิต 20 เมกะวัตต์ ในออสเตรเลีย คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างภายในปี 2556"
สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน แรกปี 2556 บริษัทรับรู้รายได้ 27,617 ล้าน บาท โดยรายได้ที่มีนัยสำคัญมาจากค่าขาย ไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าราชบุรี เพาเวอร์ โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท RATCH-Australia Corporation Limited รวมทั้งกำไรจากการขายลูกหนี้จากการขาย เงินลงทุนในโรงไฟฟ้า Loy Yang A สำหรับ กำไรในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้มีจำนวน 3,709 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ 7 โครงการ โดยในปี 2557 โครงการ ราชบุรีเวิลด์ โคเจเนอเรชั่น เครื่องที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 112 เมกะวัตต์ และ โครงการชีวมวลสงขลา ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ จะแล้วเสร็จและเดินเครื่องจำหน่ายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ.) นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรง ไฟฟ้าหงสา ขนาดกำลังการผลิต 1,875 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว เป็นโครงการขนาด ใหญ่ที่กำหนดจะเริ่มทดสอบการเดินเครื่องในปี 2557 และผลิตไฟฟ้าจำหน่ายประเทศ ไทยในปี 2558