จากกรณีกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ประมาณ 200 คัน นำโดยนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และมีแท็กซี่ประมาณ 50 คัน เดินทางมาชุมนุมที่หน้าบริเวณทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนราชดำเนิน เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาค่าครองชีพ 3 ข้อ ได้แก่ มาตรการเยียวยาผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีภาคครัวเรือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 อีกทั้งขอให้รัฐคุมราคาจำหน่ายแก๊สหน้าสถานีบริการไม่ให้เกินกำหนด และทบทวนกฎหมายการปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งได้มีตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีมารับหนังสือจากผู้ชุมนุม และยุติการชุมนุมไปแล้วนั้น
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ทางกระทรวงพลังงานเห็นชอบแนวทางสนับสนุนราคาแอลพีจีให้กับกลุ่มแท็กซี่ในเบื้องต้นแล้ว โดยยืนยันว่าราคาขายภาคขนส่งจะตรึงไว้ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัมต่อไป จากนี้จะให้กลุ่มแท็กซี่ร่วมหารือกับกระทรวงในช่วง 6 เดือน ก่อนปรับราคาในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2557 นี้ แต่การกำหนดราคาค่าโดยสารขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคม
"แท็กซี่เกี่ยวข้องกับผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานจะพิจารณาให้แท็กซี่ซื้อแอลพีจีราคาเดิม และจะเสนอให้รัฐบาลปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และรับผู้โดยสารได้น้อยลงจากปัญหารถติด เรื่องค่าโดยสารที่จะปรับขึ้นกับราคาแอลพีจีอย่านำมาผูกกัน ถ้าขึ้นค่าโดยสารแล้วคงทยอยปรับราคาแอลพีจีภาคขนส่งได้ นอกจากนี้ จะมีการตั้งงบประมาณให้แท็กซี่เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีฟรีอีกครั้ง จากปัจจุบันที่มีแท็กซี่แอลพีจีกว่า 2 หมื่นคัน พร้อมกับหาแนวทางตั้งปั๊มเอ็นจีวีให้บริการทั่วถึงด้วย"
ส่วนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนในวันที่ 1 กันยายนนี้ ได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยก่อนการปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม โดยกลุ่มผู้ใช้แก๊สหุงต้มทั้งหมดในประเทศจำนวน 18 ล้านครัวเรือน โดยภาครัฐช่วยอุดหนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจำนวน 7.6 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 90 หน่วยต่อเดือน และกลุ่มหาบเร่แผงลอย จำนวน 180,000 ราย โดยเฉลี่ยมีการปรับขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี ภาคครัวเรือนร้อยละ 60 ในกลุ่มผู้มีรายได้สูง และคงราคาเดิมร้อยละ 40 ให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ โดยไม่กำหนดกรอบระยะเวลา ส่วนผู้มีสิทธิ์แต่ตกสำรวจ โดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่แผงลอย ยังสามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ข้อเสนอการขอปรับขึ้นค่ามิเตอร์จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เบื้องต้น พบว่า อัตราค่าโดยสารมิเตอร์ช่วงเวลาที่รถติดที่รัฐกำหนดให้ในอัตรา 1.50 บาท เป็นอัตราที่ต่ำเกินไป ไม่คุ้มกับต้นทุนของรถแท็กซี่ ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาและรวบรวมรายละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าไม่เป็นธรรมก็อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน
ด้านนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีมติขยายระยะเวลาการเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ออกไปอีก 1 เดือน ให้สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ หลังจากราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น และเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบการรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงการชุมนุมของกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ ที่เรียกร้องถึงการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่ง โดยหลังจากมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว มีความเข้าใจที่ตรงกันมากขึ้น ดังนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงยืนยันจะไม่เดินทางมาชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 กันยายนนี้ อย่างแน่นอน