โรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัทกัลฟ์น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมอาชีพชุมชน

วันพุธที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัทกัลฟ์น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมอาชีพชุมชน


ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เป็นยุคข้าวยากหมากแพง สินค้าขึ้นราคา ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ จำ เป็นต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสถาน การณ์ เพื่อลดรายจ่าย และการแสวงหารายได้เพิ่มเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจครัวเรือนอยู่ได้ในสภาวะที่เหมาะสม ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมกับโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ใน โครงการ ส่งเสริมอาชีพและธุรกิจชุมชน โดย น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงฯ ส่งเสริมชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าอุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
กรณีตัวอย่างเช่น ชุมชนบ้านโรง ใน ม.3 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กลยุทธ์ในการส่งเสริม หัวใจ คือ รณรงค์ ให้มีการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่ม แม่บ้าน ประชาชนที่มีเวลาว่างจากการ ทำนา กลุ่มที่ว่างงาน ที่ต้องการมีรายได้เสริม ร่วมกันคิดหาวิธีการลดรายจ่าย ของครัวเรือน เช่น การปลูกผักสวนครัวต่างๆ กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ฯลฯ การเพาะเห็ด การรวมกันซื้อสินค้า ราคาส่ง ประหยัดการใช้ไฟฟ้า การแยกขยะรีไซเคิล รวมถึงการแบ่งปันแรงงาน ช่วย เหลือซึ่งกันและกัน แทนการจ้างด้วยเงินตราเป็นประการสำคัญ หันกลับมาใช้น้ำใจแทน (ลงแขก/เอาแรง) ฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชุมชน ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหลายๆ ด้าน รวมทั้งการรณรงค์การลดอบายมุข ที่สูญเสียเงินตราโดยใช่เหตุ และช่วยให้สุขภาพดีขึ้นด้วย สามารถจะลดรายจ่ายครัวเรือนลงได้พอสมควรเลยทีเดียว
ประการที่สอง คือ การอบรมอาชีพ เสริม เช่น การทำอาหารซึ่งชุมชนมีพื้นฐาน อยู่บ้างแล้วพัฒนาสูตรโดยวิทยากรเพิ่มเติม สามารถรับทำอาหารให้กับหน่วยงาน ต่างๆ การผลิตสินค้าชุมชน เช่น การทำไม้กวาดจากหญ้า การทำขนมกระยาสารท ล่าสุดโรงฟ้าอุทัย จัดอบรมการแปรรูปผลผลิตจากท้องถิ่น โดยการจัดอบรมการ แปรรูปกล้วยทอดสมุนไพร "สูตรเทวดา" ให้กับชุมชน เพื่อนำไปเป็นอาชีพเสริมและจัดตั้งกลุ่มอาชีพกล้วยทอด ซึ่งเริ่มมีการทำขาย รับจัดเลี้ยงในงานต่างๆ ที่เลือก การแปรรูปกล้วย นั้นเพราะเป็นผลผลิตในท้องถิ่นที่หาได้ง่าย มีอยู่แล้วจำนวนมาก และปลูกง่ายโตเร็ว สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ใช้เวลาในการดูแลน้อย ต้น ทุนต่ำ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง มีเงินลงทุนไม่กี่ร้อยบาท ก็สามารถทำเป็น อาชีพได้เลยกล้วยยังซื้อหาจากคนในชุมชน ได้ ทำให้เงินหมุนเวียนในชุมชนอีกด้วย ซึ่ง หลายคนได้มองข้ามและไม่สนใจ ปล่อยให้ ต้นกล้วยในท้องถิ่น ออกลูกมาเน่าเสียสูญ เปล่าไปจำนวนมาก เป็นต้น
นายอัมรินทร์ เรืองสง่า ผู้ใหญ่บ้านโรงใน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านทำนา เสร็จก็ไม่มีอะไรทำกัน จะเป็นช่วงว่างงาน ไม่มีอาชีพเสริม เรียกว่ามีแต่จ่ายรายรับไม่มีเลย หลังมีหน่วยงานต่างๆ และการส่งเสริมจากโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ เข้ามาอบรมให้ความรู้ ทำให้เราได้มอง เห็นความสำคัญต่อการประหยัดอดออม การลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ โดยการ อบรมอาชีพเสริมให้ชุมชนกลุ่มแม่บ้านมีความกระตือรือร้นมากขึ้น ปัจจุบัน ชุมชน ได้มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้ให้ ครอบครัว เช่น การทำไม้กวาดจากต้น หญ้า การทำขนมกระยาสารท และการ แปรรูปกล้วยทอด และกำลังพัฒนาผลิต ภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้นเช่นการดองผัก การ ทำน้ำพริก เป็นต้น ถือได้ว่าชุมชนมีช่อง ทางในการใช้เวลาว่างเพิ่มรายได้มากขึ้น เป็นลำดับ ซึ่งต้องขอบคุณโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ โดยชมรมกัลฟ์จิตอาสา โรงไฟฟ้าอุทัย ที่ได้เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนมาโดยตลอด
ด้านนายสมชาย พงษ์เทพิน ผู้จัดการส่วนประชาสัมพันธ์ โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมอาชีพ และธุรกิจชุมชน เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายบริษัท ด้านการพัฒนา คุณชีวิตชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ให้ประชาชน มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่อย่างมีความสุข ซึ่งได้นำแนวทางเศรษฐกิจพอ เพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาส่งเสริมชุมชน เน้นการพึ่งตนเอง การ ค้นหาศักยภาพชุมชน ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ และ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ผลผลิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ก้าวไปสู่การพัฒนา เศรษฐกิจของชุมชนให้เข้มแข็ง และมั่นคงต่อไป


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ