จากกรณีที่ผู้ค้าน้ำมันปั๊มหลอด ในเขตกรุงเทพฯ ตระเวนซื้อน้ำมัน E85 และแก๊สโซฮอล์ 91 ใส่แกลลอน จาก ปั๊มบางจากแล้วนำมาผสมกัน เพื่อนำไปขายเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ทำให้ผู้ใช้มักเข้าใจผิด เพราะสีของน้ำมันคล้ายกัน โดยผู้ค้าจะได้ส่วนต่างประมาณ 15 บาทต่อลิตรนั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท บาง จาก จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับทราบแล้วเป็นการนำแกลลอนมาซื้อน้ำมันจากปั๊มบางจากย่านถนนวิภาวดี ใกล้ๆ กระทรวงพลังงาน อย่างไรก็ตาม ทางบางจากได้มีมาตรการแก้ไข แล้วด้วยการให้พนักงานปั๊มจดบันทึก จำนวนการมาซื้อน้ำมันทุกครั้งด้วย แกลลอนแต่ละครั้ง พร้อมกับให้แสดงบัตรประชาชน และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้จัดการปั๊มด้วย ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเวียนเทียนซื้อน้ำมันไปผสมขาย และไม่ให้กระทบกับผู้ที่เดือดร้อนจริงจากกรณีที่รถยนต์น้ำมันหมดระหว่างทาง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ได้เกิดเหตุการณ์ซื้อน้ำมัน E85 ใส่ถังครั้งละ 200 ลิตร แล้วนำไปกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมาได้สั่งให้มีการยกเลิกขายน้ำมันทีละมากๆ เพราะนำไปใช้ ผิดวัตถุประสงค์ และต่อมาก็มีการนำแกลลอนมาเวียนเทียนซื้อน้ำมัน E85 อีกทางบางจากจึงมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดดังกล่าว
"ราคาน้ำมัน E85 กับราคาแก๊สโซฮอล์ 95 แตกต่างกันประมาณลิตรละ 15 บาท ทำให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้ว่ารถยนต์ที่เติมน้ำมันที่มีการผสมจะไม่ได้รับผลกระทบจากค่าความร้อน แต่ถ้าเป็นรถยนต์ ที่ใช้ E10 และ E20 ถ้าเติมน้ำมัน E85 ก็จะ ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ ซึ่งบางจากได้ เข้ม งวดในการขายน้ำมันเพื่อป้องกันการลักลอบ น้ำมันไปผสมขายแบบผิดกฎหมาย แล้วจึงขอให้ประชาชนสบายใจ และขอแนะนำว่า ควรใช้น้ำมันที่ปั๊มได้มาตรฐานเท่านั้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ราคา น้ำมันว่า ราคาน้ำมันปรับลดลงจากความกังวลต่อปัญหาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 ของสหรัฐฯ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 หากกระบวนการลงมติชะงักงัน ไม่บรรลุข้อตกลงจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะ Shut Down กล่าวคือไม่มีเงินมาใช้ในการบริหารงาน หน่วยงานราชการหลายแห่งอาจต้องปิดดำเนินการ และในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ อำนาจของ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในการกู้ยืมหนี้ใหม่มาใช้คืนหนี้เก่าจะหมดลง นอกจากสภา คองเกรสจะลงมติผ่านกฎหมายเพิ่มเพดาน หนี้ให้ทันเวลา ประเด็นทางการคลังข้างต้นกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และราคาน้ำมัน รวมทั้งสิน ทรัพย์เสี่ยงทุกประเภทที่ปัจจุบันนักลงทุน Sell Off เพื่อทำกำไรและลดความเสี่ยง ประกอบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอิหร่าน ติดต่อกันทางโทรศัพท์ นับเป็นการติดต่อกันครั้งแรกระหว่างผู้นำประเทศของทั้งสอง ชาติในรอบ 34 ปี
ขณะที่การประชุมระหว่างอิหร่านกับ IAEA เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ที่กรุงเวียนนามีความคืบหน้า ส่งผลให้อิทธิพลของปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อราคาน้ำมัน ลดลง อย่างไรก็ตาม การประท้วงของพนัก- งานโรงกลั่น Granmouth (210 KBD) ที่สก็อตแลนด์มีแนวโน้มสนับสนุนราคาน้ำมัน ดิบ เพราะหากโรงกลั่นดังกล่าวซึ่งใช้น้ำมัน ดิบ Forties เข้ากลั่นผ่านทาง Forties Pipeline ต้องหยุดดำเนินการจะกระทบต่อการ ขนส่งน้ำมันดิบ Forties ซึ่งมีปริมาณสูบถ่ายในเดือน ต.ค. 56 ที่ 329 KBD ให้จับตาการร่างแผนปฏิรูปเศรษฐกิจแบบบูรณาการของจีนที่ตั้งเป้าเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ โดยการปรับปรุงมาตรการทาง การเงิน, การคลัง, ภาษี, สวัสดิการสังคม, กลไกการกำหนดราคาวัตถุดิบและราคาสินค้า แผนดังกล่าวจะนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือน พ.ย. นี้ ส่วนในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมัน ดิบ Brent และ WTI คาดว่าจะเคลื่อน ไหวในกรอบ 107-109 USD/BBL และ 99.25-102.75 USD/BBL ตามลำดับ