นักวิชาการหวั่น!! แผน "PDP 2013" ล่าช้า ไม่ฟังความเห็นภาคประชาชน

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

นักวิชาการหวั่น!! แผน


รับฟังความเห็นร่างแผน PDP 2013 ล่าช้าอาจไม่ทันสิ้นปี นักวิชาการ หวั่นไม่ฟังความเห็นภาคประชาชนต้องจัดเวที PDP ภูมิภาคได้แล้ว ด้านวุฒิสภาจัดทำแผนพัฒนาพลังงานเสนอ "ยิ่งลักษณ์" ชี้ต้องลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันใช้ถึง 68% แนะใช้พลังงานที่มีเทคโนโลยีที่สะอาดกระจายโรงไฟฟ้า และสายส่งให้ครอบคลุม
ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาและติดตามแผนการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทย วุฒิสภาได้มีการพิจารณาความคืบหน้าการจัดทำ ค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าสำหรับจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย PDP ฉบับใหม่ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการจัดทำ ค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าของประเทศไทย
โดยอาจารย์เดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการร่างแผน PDP 2013 มีความ ล่าช้า โดยเฉพาะการประชุมคณะทำงาน ทบทวนสมมติฐานแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งในปี 2556 นี้ ยังเพิ่งประชุมไปครั้งเดียวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจากการประชุมยังคงมีข้อถกเถียงกันเรื่องการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า (Load Forecast) เรื่องนิยามของพลังงานถ่านหินสะอาด และเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนเป็นห่วงนั่นก็คือการเริ่มต้นรับฟังความเห็นในส่วนของภูมิภาคต่างๆ ซึ่งหากจะให้แผน PDP 2013 เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ เดือนตุลาคม นี้ ก็ควรต้องมีการเริ่มจัดเวทีในภูมิภาคต่างๆ ได้แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ไม่อยากให้มีการดำเนินการแบบรวบรัดแบบที่แล้วมา
"หากแผน PDP 2013 ได้มีการรับ ฟังความเห็นจากประชาชนภาคส่วนต่างๆ แล้ว เชื่อว่าในการต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าจะจำกัดวงแคบลงมาเพราะมีการให้ข้อมูลจากทุกฝ่าย" อาจารย์เดชรัตน์ ระบุ
อนึ่ง ในการหารือในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 7 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการหารือในประเด็นเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า PDP 2013 ผ่าน ไปยังนายกรัฐมนตรี ดังนี้
จากที่ขณะนี้กำลังผลิตไฟฟ้าของไทยใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติถึง 68% และจากการประมูลได้ IPP สร้างโรงไฟฟ้า ใช้ก๊าซเพิ่มอีก 5,400 เมกะวัตต์ ดังนั้น ในการจัดทำแผน PDP 2013 ที่กำลังเร่ง ให้เสร็จปลายปีนี้ต้องคำนึงถึงเชื้อเพลิงที่จะใช้สำหรับโรงไฟฟ้าที่จะสร้างใหม่ในแผน PDP 2013 ต้องไม่ใช้ก๊าซ เพราะขณะนี้ก๊าซธรรมชาติที่มีไม่เพียงพอให้ใช้เพิ่ม ต้องใช้ LNG ซึ่งแพงกว่าก๊าซที่ใช้อยู่ประมาณเท่าตัว และการใช้ก๊าซมากๆ จะเสี่ยงต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าอย่างมาก
และควรหันไปใช้ถ่านหินสะอาดหรือนิวเคลียร์ เพราะขณะมีนี้เทคโนโลยีที่สามารถควบคุมได้ รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ในขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านกำลังสร้างกันจำนวนหลายโรง แล้ว และเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจก็ควรออก พ.ร.บ. ควบคุมมาตรฐานต่างๆ ใช้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดด้วย
นอกจากนี้ ในการสนับสนุนการใช้ หญ้าเนเปียร์ ตามที่กระทรวงพลังงานได้เคยประกาศให้ได้ 10,000 เมกะวัตต์ นั้น ต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่จะใช้ปลูกหญ้าจำนวนมาก และราคาที่อาจจะสูงขึ้นมาก ในอนาคต รวมทั้งต้องเร่งเจรจาจัดหาพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำจากพม่าที่มีศักยภาพ อยู่มาก และซื้อเพิ่มจากลาวให้มากขึ้น รวมทั้งต้องกำหนดให้โรงไฟฟ้าและสายส่ง ที่จะสร้างใหม่กระจายให้ทั่วแต่ละพื้นที่สามารถรองรับความต้องการในพื้นที่ได้ และสายส่งกระจายไปให้สามารถถ่ายโอน ได้เพื่อลดการสูญเสียในระบบ และลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าดับ
สุดท้ายต้องกำหนดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้มีการสนับสนุนให้ประชาชนใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ