Toggle navigation
วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
วิกฤติพลังงานไทย {apos}ไอเออีเอ{apos} ชี้ชัดแย่สุดในอาเซียน!!
วิกฤติพลังงานไทย {apos}ไอเออีเอ{apos} ชี้ชัดแย่สุดในอาเซียน!!
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงานสัมมนาวิชาการผลิตไฟฟ้า ของสายงานพัฒนาธุรกิจ และสายงานผลิตไฟฟ้า ครั้งที่ 14 ประจำปี 2556 หรือ EGAT Power Generation Conference 2013 ภายใต้แนวคิด "The Spirit of Excellence" อันมีความหมายถึงการปฏิบัติงานของ กฟผ.ที่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยจิตวิญญาณอย่างมืออาชีพ เพื่อเป็น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเผยแพร่ ความรู้ในด้านการผลิตไฟฟ้า สร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจการให้บริการแก่โรงไฟฟ้าทั่วไป
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "มองอนาคตพลังงานไทยในอีก 20 ปี" ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าห่วงที่สุดในอาเซียน เพราะมีการนำเข้าพลังงาน ก๊าซธรรมชาติเป็นหลักมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยในปี 2555 ได้นำเข้าพลังงานคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท หรือมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรไว้ 2.6 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้นำเข้าพลังงาน คิดเป็นสัดส่วน 80% อีก 20% ผลิตได้ในประเทศ ขณะที่การใช้พลังงานเติบโตอย่าง ต่อเนื่องเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ต่อปี โดยปี 2555 พบว่า มีการใช้พลังงานมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 19% ของจีดีพี
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้ส่งเสริมพลังงานทดแทนเพื่อลดการนำเข้า เช่น การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม แต่ขณะนี้สามารถผลิต ได้เพียง 10% เท่านั้นจากเป้าหมายตั้งไว้ 25% ดังนั้น ในอนาคตความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทยยังน่าห่วง ซึ่งจาก ข้อมูล IAEA ระบุว่า ในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยกันปรากฏว่าไทยอยู่อันดับแย่ที่สุด
นายสุเทพ กล่าวว่า การจะพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าในประเทศคงหมดหวัง เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่ง กฟผ.อยู่ระหว่าง ดำเนินการผลักดัน 6 แห่ง เช่น หัวไทร กระบี่ แต่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะถูกคัดค้าน และในอนาคตยังจะเป็น ปัญหายืดเยื้อต่อไป เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้า จากพลังงานิวเคลียร์ รวมถึงการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อผลิตไฟฟ้า ต้องใช้เรือขนส่งขนาดแสนกว่าตัน จำนวน 2 ลำ ลอยอยู่ในอ่าวไทย ซึ่งทางเสนาธิการ ทหารเรือก็มีความกังวลใจต่อความมั่นคงของประเทศ
ในอนาคตประเทศไทยต้องนำเข้า LNG มากถึง 23 ล้านตัน ขณะที่ราคานำเข้า LNG สูงกว่าก๊าซธรรมชาติทั่วไปถึง 3 เท่า เมื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะ ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าขยับสูงขึ้น 7-8 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 บาท ต่อหน่วย แม้ว่าในระยะอันใกล้ กฟผ.สามารถ ดูแลค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับต่ำได้ แต่ในอนาคตราคาต้องขยับสูงขึ้นอย่างแน่นอน
นางอัญชลี ชวนิชย์ ประธานกรรมการ กฟผ. กล่าวในหัวข้อ "กฟผ. กับจุดยืนไฟฟ้าไทยในเวทีอาเซียน" ว่า ในอนาคตฟอสซิลและถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงหลักของโลก แต่จะมีการผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น เพราะได้รับการอุดหนุนด้านราคา โดยในประเทศเยอรมนีได้กำหนด ว่าในอนาคตต้องมีพลังงานทดแทนให้ได้ 50% แต่ของโลกกำหนดไว้ในสัดส่วน 20% ซึ่งการที่ให้เยอรมนีหันมาส่งเสริมพลังงาน ทดแทนแล้วยกเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้ค่าไฟของเยอรมนีสูงที่สุดในยุโรป
นางอัญชลี กล่าวว่า การผลิตไฟฟ้า ในไทยต้องมีการปรับตัวหลายประการทั้งเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยเฉพาะโครงการระบบส่งไฟฟ้า ASEAN Power Grid จะเป็นโอกาส ที่สำคัญของภูมิภาคในการร่วมมือส่งเสริม ซึ่งจะเห็นว่าธุรกิจไฟฟ้าในยุโรปกำลังได้รับผลกระทบ แต่ธุรกิจไฟฟ้ามีการขยายตัว เพิ่มในภูมิภาคเอเชียรวมถึงจีนด้วย
นอกจากนี้ ปัจจุบันการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้ามีสัดส่วนภาครัฐ 55% เอกชน 45% แต่แนวโน้มในอนาคตการลงทุนจะให้ เอกชนเข้ามาลงทุนในสัดส่วนมากขึ้น
ด้านนายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาวิชาการปีนี้มีการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นการเปิดกว้างโดยการเชิญบริษัทคู่ค้าและพันธมิตรเข้าร่วมบรรยาย โดยปลัดกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "มองอนาคตพลังงานไทยในอีก 20 ปี" และการบรรยายพิเศษโดยประธานกรรมการ กฟผ.ในหัวข้อ "กฟผ.กับจุดยืนไฟฟ้าไทยในเวทีอาเซียน" ซึ่งสอดคล้องกับการที่ กฟผ.จะต้องเตรียมตัวเพื่อก้าวสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปี ข้างหน้า ส่วน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "The Spirit of Excellence" เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจพลังงาน จนประสบความสำเร็จในระดับสากล
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยการจัดสัมมนาย่อย 3 ห้อง ได้แก่ ห้อง Operation {amp} Production Optimization เป็นการบรรยายเกี่ยวกับการเดินเครื่องและการผลิตไฟฟ้าให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุด ห้อง Main-tenance {amp} Plan Improvement บรรยาย เกี่ยวกับการบำรุงรักษาอย่างไร ที่จะสามารถ ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด และห้อง Power Plant {amp} Environmental เป็นการบริหารจัดการโดยคำนึง ถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการคัดกรองหัวข้อที่น่าสนใจจากคณะกรรมการ จำนวนกว่า 24 หัวข้อ เช่น การออกแบบโรงไฟฟ้าพลังงาน ลมด้วยระบบอาณาจักรมด โดยจุดเด่นของ งานสัมมนาวิชาการในครั้งนี้คือ เป็นการบรรยายภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับการเข้า สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมโชว์การแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ใช้ในการซ่อม Generator ในพื้นที่เล็กและแคบ ซึ่ง เป็นการพัฒนาและคิดค้นโดยทีมงาน กฟผ. (EGAT Generator Inspection Vehicle : EGAT GIV)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
กรมพัฒนาธุรกิจฯ ฉลองความสำเร็จ The Influ...
...
THECA 2025 เร่งปั้นบุคลากรคุณภาพ ตอบโจทย...
...
" วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค" จัดงาน 'Thail...
...
“กระทรวงอุตสาหกรรม” จัดสัมมนารับฟังความค...
...
"กวิน อินเตอร์เทรด" เปิด 3 งานแสดงสินค้า...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ