วิกฤติพลังงานไทย {apos}ไอเออีเอ{apos} ชี้ชัดแย่สุดในอาเซียน!!

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิกฤติพลังงานไทย {apos}ไอเออีเอ{apos} ชี้ชัดแย่สุดในอาเซียน!!


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงานสัมมนาวิชาการผลิตไฟฟ้า ของสายงานพัฒนาธุรกิจ และสายงานผลิตไฟฟ้า ครั้งที่ 14 ประจำปี 2556 หรือ EGAT Power Generation Conference 2013 ภายใต้แนวคิด "The Spirit of Excellence" อันมีความหมายถึงการปฏิบัติงานของ กฟผ.ที่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยจิตวิญญาณอย่างมืออาชีพ เพื่อเป็น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเผยแพร่ ความรู้ในด้านการผลิตไฟฟ้า สร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจการให้บริการแก่โรงไฟฟ้าทั่วไป
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "มองอนาคตพลังงานไทยในอีก 20 ปี" ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าห่วงที่สุดในอาเซียน เพราะมีการนำเข้าพลังงาน ก๊าซธรรมชาติเป็นหลักมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยในปี 2555 ได้นำเข้าพลังงานคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท หรือมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรไว้ 2.6 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้นำเข้าพลังงาน คิดเป็นสัดส่วน 80% อีก 20% ผลิตได้ในประเทศ ขณะที่การใช้พลังงานเติบโตอย่าง ต่อเนื่องเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ต่อปี โดยปี 2555 พบว่า มีการใช้พลังงานมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 19% ของจีดีพี
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้ส่งเสริมพลังงานทดแทนเพื่อลดการนำเข้า เช่น การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม แต่ขณะนี้สามารถผลิต ได้เพียง 10% เท่านั้นจากเป้าหมายตั้งไว้ 25% ดังนั้น ในอนาคตความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทยยังน่าห่วง ซึ่งจาก ข้อมูล IAEA ระบุว่า ในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยกันปรากฏว่าไทยอยู่อันดับแย่ที่สุด
นายสุเทพ กล่าวว่า การจะพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าในประเทศคงหมดหวัง เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่ง กฟผ.อยู่ระหว่าง ดำเนินการผลักดัน 6 แห่ง เช่น หัวไทร กระบี่ แต่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะถูกคัดค้าน และในอนาคตยังจะเป็น ปัญหายืดเยื้อต่อไป เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้า จากพลังงานิวเคลียร์ รวมถึงการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อผลิตไฟฟ้า ต้องใช้เรือขนส่งขนาดแสนกว่าตัน จำนวน 2 ลำ ลอยอยู่ในอ่าวไทย ซึ่งทางเสนาธิการ ทหารเรือก็มีความกังวลใจต่อความมั่นคงของประเทศ
ในอนาคตประเทศไทยต้องนำเข้า LNG มากถึง 23 ล้านตัน ขณะที่ราคานำเข้า LNG สูงกว่าก๊าซธรรมชาติทั่วไปถึง 3 เท่า เมื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะ ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าขยับสูงขึ้น 7-8 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 บาท ต่อหน่วย แม้ว่าในระยะอันใกล้ กฟผ.สามารถ ดูแลค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับต่ำได้ แต่ในอนาคตราคาต้องขยับสูงขึ้นอย่างแน่นอน
นางอัญชลี ชวนิชย์ ประธานกรรมการ กฟผ. กล่าวในหัวข้อ "กฟผ. กับจุดยืนไฟฟ้าไทยในเวทีอาเซียน" ว่า ในอนาคตฟอสซิลและถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงหลักของโลก แต่จะมีการผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น เพราะได้รับการอุดหนุนด้านราคา โดยในประเทศเยอรมนีได้กำหนด ว่าในอนาคตต้องมีพลังงานทดแทนให้ได้ 50% แต่ของโลกกำหนดไว้ในสัดส่วน 20% ซึ่งการที่ให้เยอรมนีหันมาส่งเสริมพลังงาน ทดแทนแล้วยกเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้ค่าไฟของเยอรมนีสูงที่สุดในยุโรป
นางอัญชลี กล่าวว่า การผลิตไฟฟ้า ในไทยต้องมีการปรับตัวหลายประการทั้งเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยเฉพาะโครงการระบบส่งไฟฟ้า ASEAN Power Grid จะเป็นโอกาส ที่สำคัญของภูมิภาคในการร่วมมือส่งเสริม ซึ่งจะเห็นว่าธุรกิจไฟฟ้าในยุโรปกำลังได้รับผลกระทบ แต่ธุรกิจไฟฟ้ามีการขยายตัว เพิ่มในภูมิภาคเอเชียรวมถึงจีนด้วย
นอกจากนี้ ปัจจุบันการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้ามีสัดส่วนภาครัฐ 55% เอกชน 45% แต่แนวโน้มในอนาคตการลงทุนจะให้ เอกชนเข้ามาลงทุนในสัดส่วนมากขึ้น
ด้านนายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาวิชาการปีนี้มีการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นการเปิดกว้างโดยการเชิญบริษัทคู่ค้าและพันธมิตรเข้าร่วมบรรยาย โดยปลัดกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "มองอนาคตพลังงานไทยในอีก 20 ปี" และการบรรยายพิเศษโดยประธานกรรมการ กฟผ.ในหัวข้อ "กฟผ.กับจุดยืนไฟฟ้าไทยในเวทีอาเซียน" ซึ่งสอดคล้องกับการที่ กฟผ.จะต้องเตรียมตัวเพื่อก้าวสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปี ข้างหน้า ส่วน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "The Spirit of Excellence" เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจพลังงาน จนประสบความสำเร็จในระดับสากล
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยการจัดสัมมนาย่อย 3 ห้อง ได้แก่ ห้อง Operation {amp} Production Optimization เป็นการบรรยายเกี่ยวกับการเดินเครื่องและการผลิตไฟฟ้าให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุด ห้อง Main-tenance {amp} Plan Improvement บรรยาย เกี่ยวกับการบำรุงรักษาอย่างไร ที่จะสามารถ ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด และห้อง Power Plant {amp} Environmental เป็นการบริหารจัดการโดยคำนึง ถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการคัดกรองหัวข้อที่น่าสนใจจากคณะกรรมการ จำนวนกว่า 24 หัวข้อ เช่น การออกแบบโรงไฟฟ้าพลังงาน ลมด้วยระบบอาณาจักรมด โดยจุดเด่นของ งานสัมมนาวิชาการในครั้งนี้คือ เป็นการบรรยายภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับการเข้า สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมโชว์การแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ใช้ในการซ่อม Generator ในพื้นที่เล็กและแคบ ซึ่ง เป็นการพัฒนาและคิดค้นโดยทีมงาน กฟผ. (EGAT Generator Inspection Vehicle : EGAT GIV)


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ