Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
โรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัท ‘กัลฟ์’ สานต่อโครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน
โรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัท ‘กัลฟ์’ สานต่อโครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน
วันอังคารที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2557
Tweet
โรงไฟฟ้าหนองแซง กลุ่มบริษัทกัลฟ์ และมูลนิธิพลังงานไทย สานต่อความสำเร็จสร้างชาวนาต้นแบบ เดินหน้า ส่งเสริมโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนปีที่ 3 ส่งเสริมการทำนาอินทรีย์วิถีพอเพียง ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ทำนา ฟื้นฟูผืนดิน ระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
“ชาวนารอบโรงไฟฟ้าตื่นตัว เปลี่ยนผืนนาข้าวเคมี เป็นนาข้าวอินทรีย์ จากนาเคมี 16 ไร่ในปีแรก...ปีที่ 3 ชาวนาเข้าร่วมทำนาอินทรีย์ถึง 66 ไร่”
โครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน โดยการสนับสนุนของกลุ่มบริษัทกัลฟ์และมูลนิธิพลังงานไทย ร่วมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาให้หันมาทำนาอินทรีย์ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดสระบุรี ปีนี้เป็นปีที่ 3 หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ในปี 2554 ซึ่งโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ โรงไฟฟ้าอุทัย ได้จัดทำโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเข้าไปส่งเสริมให้ชาวนาในพื้นที่อำเภออุทัย จัดทำแปลงนาสาธิตโดยวิธีโยน กล้า วิถีการผลิตแบบอินทรีย์ ชีวภาพ ไม่พึ่งพาสารเคมี เป็นแหล่งเรียนรู้สร้างชาวนาต้นแบบ ในปีแรกมีแปลงนาสาธิตเกิดขึ้นที่ อบต. สามบัณฑิตจำนวน 4 ไร่ พื้นที่ทำนา อบต.บ้านช้างจำนวน 5 ไร่ พื้นที่ โพสาวหาญ 7 ไร่ รวมพื้นที่การทำนาที่ เข้าร่วมโครงการ 16 ไร่
ที่ผ่านมาชาวนาที่เข้าร่วมในโครงการเกษตรกรรมยั่งยืน เกิดกระบวนการเรียนรู้การทำนาอินทรีย์ ซึ่งสามารถลดต้นทุนการทำนา ลดการพึ่งพาสารเคมี และฟื้นฟูสภาพดินและสิ่งแวดล้อมผลจากการปฏิบัติจริง สร้างให้เกิดความรู้และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเป็นลำดับ และขยายผลสร้างความสนใจในการปรับเปลี่ยนวิถีการทำนาแบบใหม่ (แบบอินทรีย์) ซึ่งก่อนหน้านั้นชาวบ้านเขา มีความเชื่อว่า หากทำนาต้องพึ่งปุ๋ยเคมีต้องพึ่งยาฆ่าแมลง ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ผลผลิตที่ดีจากความเชื่อดังกล่าว ทำให้สุขภาพของชาวนาเสื่อมโทรม สภาพผืนดินในนาก็ขาดความสมบรูณ์มากขึ้นทุกปี ต้นทุนการผลิตต่อไร่ในการทำนาเคมีสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึง 6,500-7,000 บาท/ไร่
โครงการเกษตรกรรมยั่งยืน ได้เสริมสร้างการเรียนรู้ การทำนาทางเลือกใหม่ หลายด้าน เช่น การปรับปรุงดิน การทำนาโดยไม่เผาตอซังข้าว ใช้กระบวนการหมักฟางด้วยจุลินทรีย์จาวปลวก ฝึกอบรมให้ชาวนาทำน้ำหมักทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง โดยใช้เศษอาหารวัสดุเหลือทิ้งในท้องถิ่นเพื่อสร้างความสมบรูณ์ให้กับผืนดินในนาข้าวโดยใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ ชีวภาพ และฝึกอบรมให้ชาวนาหมักน้ำสมุนไพรเพื่อใช้ในการไล่แมลงไล่เพลี้ย ทำให้ต้นทุนการทำนาลดลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 3,000-3,500 บาทต่อไร่
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน และการพึ่งตนเอง เช่น การปลูกผัก เลี้ยงปลาในนาข้าว การเลี้ยงหมูหลุม ทำปุ๋ยใช้เอง เป็นต้น เพื่อการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ประสบผลสำเร็จในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
กลุ่มบริษัทกัลฟ์ และมูลนิธิพลังงานไทย มุ่งมั่นสานต่อโครงการในปีที่ 3 นี้ มีการขยายผลการทำแปลงนาสาธิต การทำนาโยนกล้า ทำนาอินทรีย์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ชาวนาที่เข้าร่วมในโครงการเกษตรกรรมยั่งยืน เกิดความเชื่อมั่น เกิดความเข้าใจในกระบวนการทำนาอินทรีย์มากขึ้น ชาวนาบางคนก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำนาเคมี ที่เคยใช้ยาฆ่าแมลง หันมาใช้กรรมวิธีแบบอินทรีย์ ชีวภาพ ลดการใช้สารเคมี มาถึงปัจจุบัน มีการตื่นตัวในหมู่ชาวนารอบโรงไฟฟ้ามากขึ้น และได้ขยายผลในหลายพื้นที่ ทั้ง อำเภอหนองแซง จ.สระบุรี อำเภอภาชี อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายธนญ ตันติสุนทร ผู้อำนวยการบริหารสายงานองค์กรสัมพันธ์ โรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัทกัลฟ์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าหนองแซง และโรงไฟฟ้าอุทัย กลุ่มบริษัทกัลฟ์ เรามาอยู่ในพื้นที่ที่มีพี่น้องในชุมชนรอบโรงไฟฟ้าประกอบอาชีพทำนาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราเล็งเห็นความสำคัญอย่างมากว่าเราเป็นสมาชิกหนึ่งในชุมชน และมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกับมูลนิธิพลังงานไทย น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง มาส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรทำนา โดยการนำนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน ที่มีความรู้ประสบการณ์โดยตรงในระดับชาติ ด้านการทำนาที่ประสบความสำเร็จ มาสร้างองค์ความรู้เชิงปฏิบัติ ทำแปลงนาสาธิต และหล่อหลอมสร้างชาวนาต้นแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรได้นำไปใช้ในการทำนา และพึ่งพาตนเองตามวิถีพอเพียง ทั้งผลทางเศรษฐกิจ รายได้ สุขภาพและระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ที่ดีขึ้นของพี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ และสามารถพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืนได้ดังกล่าว เป็นที่มาของโครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งเรามุ่งมั่นต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน เป็นเจตนารมณ์ที่กลุ่มบริษัทกัลฟ์ยึดมั่นปฏิบัติมาโดยตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“พิชัย” เปิดงาน “Crafts Bangkok 2025” หน...
...
TFBO 2025 ปิดฉากสวย ยอดผู้เข้าชมทะลุหมื่...
...
บราโว บีเคเค-โซเชียลแบรนด์ จับมือ ม.เกริ...
...
เริ่มแล้ว! Kind + Jugend ASEAN 2025 งานแ...
...
"ยูนิเอ็กซ์ เอ็กซโป" ชี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ