Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
‘ณรงค์ชัย’ เปิดวาระเร่งด่วนพลังงานเคาะประมูลขุด ‘ปิโตรเลียมทั่วไทย’
‘ณรงค์ชัย’ เปิดวาระเร่งด่วนพลังงานเคาะประมูลขุด ‘ปิโตรเลียมทั่วไทย’
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557
Tweet
“ณรงค์ชัย” รมว.กระทรวงพลังงานคนใหม่ เปิดนโยบายเร่งด่วน ทุบโต๊ะเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 และการต่อใบอนุญาตสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมต้องเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ ย้ำต้องปรับโครงสร้างภาคพลังงานไทยทั้งไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้มีพลังงานใช้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัด ระทึกรับมือเลิกอุดหนุนก๊าซ LPG ภาคขนส่ง
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือฤกษ์วันที่ 12 กันยายน 2557 เข้าทำงานที่กระทรวงพลังงาน โดยได้พบกับนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงานทุกหน่วย
“วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าทำงาน มาทำความรู้จักกับผู้บริหารกระทรวงพลังงาน เพื่อรับทราบภารกิจของแต่ละหน่วยงานเฉพาะที่เป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องสำคัญที่ดำเนินการอยู่ พร้อมทั้งได้นำนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงานมาซักซ้อมความเข้าใจเพื่อเตรียมแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ที่จะมีการปฏิรูปทุกภาคส่วน” รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานป้ายแดง กล่าว
พร้อมกับยกคัมภีร์การทำงานด้วยการยึดนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภาฯ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยตรงอยู่ในด้านที่ 6 ข้อ 6.9 ระบุว่า “ปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุน และให้มีภาระภาษีที่เหมาะสมระหว่างน้ำมันต่างชนิดและผู้ใช้ต่างประเภท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศและให้ผู้บริโภคระมัดระวังที่จะไม่ใช้อย่างฟุ่มเฟือย รวมถึงดำเนินการให้มีการสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบรอบใหม่ทั้งในทะเลและบนบก และดำเนินการให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐและเอกชน ทั้งการใช้ฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงและจากพลังงานทดแทนทุกชนิด ด้วยวิธีการที่เปิดเผย โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสภาวะแวดล้อม พร้อมกับร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาพลังงาน”
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โครงสร้างของภาคพลังงานไทยควรต้องมีการปรับ 4 ส่วนใหญ่ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ส่วนแรก การใช้ ไทยมีมูลค่าการใช้พลังงานต่อรายได้ประชาชาติในอัตราที่สูงเกินความเหมาะสม คือ 18% หมายความว่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานถึงแม้ว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่ทันกับราคาพลังงานที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา ชนิดของพลังงานที่ใช้ไม่ เหมาะสม เพราะโครงสร้างราคาไม่เหมาะสม
ส่วนที่ 2 ด้านการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาจากก๊าซธรรมชาติมากเกินไป เพราะไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ตาม แผนงาน และผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน ทางเลือกได้ไม่มากพอ เป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านพลังงาน
ส่วนที่ 3 ด้านเทคโนโลยี ที่มีความ เจริญก้าวหน้าในเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่การใช้ยังไม่แพร่หลาย และสุดท้ายส่วนที่ 4 คือหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านพลังงาน ที่ต้องเร่งสร้างระบบธรรมาภิบาลจนถึงระดับที่จะสร้างความมั่นใจให้สังคมไทยได้มากพอว่า ประชาชนจะมีพลังงานใช้อย่างมั่นคง ทั่วถึง โปร่งใส และเป็นธรรม
แผนปฏิบัติการและมาตรการที่วางกรอบไว้ว่าต้องดำเนินการต่อไป คือ การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวฉบับใหม่ หรือ PDP 2015 การจัดหาแหล่ง เชื้อเพลิงพลังงานทั้งในประเทศและประเทศ เพื่อนบ้าน การจัดทำโครงการด้านอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมพลังงานทดแทน มุ่งเป้าให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มระดับธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในหน่วยงานภาครัฐด้านพลังงาน ให้มีการเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงที่โปร่งใส สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสาธารณชน ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานได้นำแผนงานต่างๆ ไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในภูมิภาคแล้ว 2 ครั้ง ที่กรุงเทพฯ และขอนแก่น โดยแต่ละครั้งมีผู้สนใจเข้าร่วมให้ความเห็นกว่า 500 คน ซึ่งได้มีการจัดอีก 2 ครั้ง ในภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ และภาคใต้ ที่สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง เพิ่มความรู้ความเข้าใจ และนำทุกความเห็นมาใช้ในการปรับแผนพลังงานที่นำไปสู่การปฏิรูปพลังงานไทยที่ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานภาครัฐด้านพลังงานมากขึ้น
นายณรงค์ชัย กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนว่า เรื่องเร่งด่วนสิ่งแรกที่จะดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ ในการพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ยืดเยื้อมานานแล้ว และการต่ออายุสัญญาสัมปทานที่จะหมดอายุในอีก 5-6 ปีข้างหน้าของแหล่งเอราวัณและบงกชในอ่าวไทย ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
พร้อมกันนี้ยังได้เจรจาพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมค่อนข้างมาก เป็นประโยชน์กับ ทั้งสองประเทศ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องเขตแดนเขาพระวิหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การเจรจาไม่เกิดผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม แผนหาแหล่งปิโตรเลียมสำรองดังกล่าวไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนเร่งด่วน เพราะเกี่ยวข้องกับกัมพูชา ไม่สามารถกำหนดให้จบได้ภายในรัฐบาลชุดนี้
ส่วนการบริหารจัดการราคาน้ำมันนั้น ตนยึดหลักการ คือ “การจ่ายภาษีต้องเท่ากันและรับภาระเท่ากัน” ยกเว้นคนด้อยโอกาสที่รัฐบาลจะช่วยเหลือ ไม่ได้ให้ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งน้ำมันดีเซลใช้กันมากแต่ราคาถูก เพราะภาษีสรรพสามิตต่ำ แต่น้ำมันเบนซินคนใช้น้อยกลับแพง บางคนที่ใช้ไม่ได้จะรวย จึงคิดว่าช่วยคนที่มีรายได้น้อยจะดีกว่า เช่นเดียวกับกรณีก๊าซธรรมชาติ ที่ไม่สนับสนุนก๊าซ LPG ไปใช้ภาคขนส่ง ต้องแยกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้เอาไปเผาอย่างเดียว
“ส่วนตัวผมเห็นว่า ควรยกเลิกการชดเชยราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง แต่ยังควรอุดหนุนหรือชดเชยราคาในภาคครัวเรือน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“พิชัย” เปิดงาน “Crafts Bangkok 2025” หน...
...
TFBO 2025 ปิดฉากสวย ยอดผู้เข้าชมทะลุหมื่...
...
บราโว บีเคเค-โซเชียลแบรนด์ จับมือ ม.เกริ...
...
เริ่มแล้ว! Kind + Jugend ASEAN 2025 งานแ...
...
"ยูนิเอ็กซ์ เอ็กซโป" ชี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ