Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
หักเหลี่ยมขุดปิโตรเลียม รัฐวัดดวงคปพ.โยนกฤษฎีกาชี้ชะตาพลังงาน
หักเหลี่ยมขุดปิโตรเลียม รัฐวัดดวงคปพ.โยนกฤษฎีกาชี้ชะตาพลังงาน
วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
Tweet
รัฐบาลไม่หวั่นระเบิดเวลาถล่มซ้ำปมฉาว “อุทยานราช ภักดิ์” เมินคปพ. ต้าน กดปุ่มเดินหน้าขุดเจาะปิโตรเลียมรอบใหม่ 29 แปลงให้ทันปี 59 เผยพลิกเกมสู้การแก้ไข 26 ประเด็นโยนกฤษฎีกาชี้ขาด พร้อมกับไม่ต้องนำร่างพ.ร.บ. 2 ฉบับเข้าครม.พิจารณาอีก “ประยุทธ์” เตือนคนไทยมีเชื้อเพลิงสำรองอีกแค่ 5 ปีเท่านั้น
กว่า 1 ปีหลังจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) ได้เปิดให้เอกชนที่สนใจแสดงความจำนงยื่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 ช่วงวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2558 แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มเครือข่ายปฏิรูป พลังงาน (คปพ.) ได้ออกมาคัดค้านการนำระบบสัมปทานมาใช้ พร้อมกับเสนอรูปแบบการสำรวจระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) หรือระบบจ้างผลิตมาใช้ โดยให้ข้ออ้างว่าประเทศชาติจะได้ประโยชน์สูงสุด
จากวันนั้นได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันทั้งสองฝ่ายเพื่อเดิน หน้าการเปิดสำรวจปิโตรเลียมในรูปแบบที่เหมาะสมกับประเทศไทย ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการของ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่วาระนี้จะเข้าที่ประชุม ครม.เพียงวันเดียว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ ได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ ที่เสนอโดยกระทรวงพลังงาน
“ภาคประชาชนจึงต้องออกมาคัดค้านเพราะจะเป็นกฎหมายที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ ที่ผ่านมาภาคประชาชนได้คัดค้านจนมีการเลื่อนเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ออกไป และรัฐบาลมีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงาน มี การประชุมร่วมระหว่างกระทรวงพลังงานกับภาคประชาชนถึง 2 ครั้ง โดยตนได้ร่วมประชุมด้วย แต่กระ- ทรวงพลังงานกลับไม่เคยส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม และไม่สนใจร่าง แก้ไขฉบับของกรรมาธิการพลังงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ทำร่วมกับภาคประชาชน แต่กลับเสนอฉบับของตนเองที่มีการแก้ไข น้อยมากและไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน มีเงื่อนงำ” น.ต.ประสงค์ กล่าว
ต่อมา คปพ. นำโดย ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.ญ.กมลพรรณ ชีวะพันธ์ศรี พล.อ.กิติศักดิ์ รัตนประเสริฐ แกนนำเครือข่าย และ นายนพ สัตยาศัย อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สาขาพลังงาน พร้อมมวลชนกว่า 200 คน รวมตัวเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกผ่านนายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องขอให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน จากกรณีดังกล่าวที่ประชุมครม.จึงได้เห็นชอบในหลักการของร่างพ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ แต่ได้มอบหมายให้ส่งเนื้อหาไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ใน 26 ประเด็น แบ่งเป็นความเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม จำนวน 11 ประเด็น และ พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมอีก 15 ประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันของหลายฝ่ายส่งกลับ มายังครม. เพื่อเสนอต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป
ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ “สยามธุรกิจ” ว่า รัฐบาลมีทางออกเกี่ยวกับการผลักดันกฎหมายเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่แล้ว เพื่อให้ การจัดหาเชื้อเพลิงได้ทันกลางปี 2559 โดยร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับไม่ต้อง เข้าครม.อีกแล้ว ขณะที่ 26 ประเด็น ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะแก้ไขกี่ประเด็น โดยอาจจะไม่ต้องใส่ครบทั้งหมดก็ได้ โดยยึดร่างแก้ไขของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเป็นหลัก จากการเคลื่อนไหวดังกล่าว สอดรับกับความเห็นของพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สิ่งที่รัฐบาลกังวล คือ หากไม่เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะมีปัญหาด้านพลังงานในอีก 5-6 ปีข้างหน้า พร้อมกับยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไม่ได้ทำเพื่อตนเองหรือ เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใด จึงไม่ต้องการให้ประท้วงในเรื่องนี้ “ถ้าไม่ทำจะมีปัญหาเรื่องพลัง งานในอีก 5-6 ปีข้างหน้า สิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อผม ไม่ได้เอื้อใคร แต่ทำเพื่อประชาชน”
เช่นเดียวกับ นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์ แล้วของไทยเหลือเพียง 5.8 ปีเท่านั้น แบ่งเป็นปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 7.75 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คอนเดนเสต จำนวน 181.91 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบ 222.92 ล้านบาร์เรล ถ้าหากไม่สามารถเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มจากเดิมได้ จะทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงพลังงาน และต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศด้วย
สำหรับแปลงสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเตรียมไว้มีทั้งหมด 29 แปลง แบ่งเป็น ภาคเหนือ-ภาคกลาง 7 แปลง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 แปลง และอ่าวไทย 6 แปลง ซึ่งในเบื้องต้นประเมินจากศักยภาพพบว่ามีแปลงสำรวจปิโตรเลียมในอ่าวไทย 3 แปลง ที่สามารถใช้ระบบพีเอสซีในการสำรวจได้คือ แปลง G3 G4 และ G6
ทั้งนี้ แหล่งปิโตรเลียมที่จะเปิดใหม่ 29 แปลงจะมีมูลค่าลงทุนสำรวจอย่างต่ำ 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะพบปิโตรเลียมแบ่งเป็นก๊าซธรรมชาติ 1-5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และน้ำมันดิบ 20-50 ล้านบาร์เรล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“พิชัย” เปิดงาน “Crafts Bangkok 2025” หน...
...
TFBO 2025 ปิดฉากสวย ยอดผู้เข้าชมทะลุหมื่...
...
บราโว บีเคเค-โซเชียลแบรนด์ จับมือ ม.เกริ...
...
เริ่มแล้ว! Kind + Jugend ASEAN 2025 งานแ...
...
"ยูนิเอ็กซ์ เอ็กซโป" ชี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ