สินค้าเกษตรหากต้องการยกระดับสู่ตลาดต่างประเทศ ต้องผ่านด่าน “แล็บ” หรือการตรวจรับรองมาตราฐานสินค้าเกษตรจากห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อเป็นใบเบิกทางสู่มาตรฐานที่สากลยอมรับ สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างแดนได้
เกษตรหลายคนฝันจะเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรไปทั่วโลก แต่ติดปัญหาการตรวจคุณภาพสินค้าที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน แต่วันนี้ปัญหาเหล่านี้กำลังจะหมดไปในยุคที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค 4.0 ที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วและแม่นยำ
เช่นเดียวกับแนวคิด “แล็บประชารัฐ” ที่บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กำลังเร่งเครื่องผลักดันให้สินค้าไทยก้าวสู่เวทีโลก ด้วยการสนับสนุนเงินทุนและงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถเข้ามาใช้บริการ “แล็บ”ได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก
นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัดหรือที่เรียกว่า เซ็นทรัลแล็บ บอกว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือในลักษณะประชารัฐ จับมือกับภาคชุมชน ภาคเอกชน หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา รวมถึงสถาบันรับรองมาตรฐานต่าง ๆ มุ่งช่วย 4 กลุ่มหลักคือ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน โอทอป และเอสเอ็มอีรายเล็ก
การช่วยเหลือที่ว่านี้ เรามีคูปองตรวจวิเคราะห์ให้กับผู้ประกอบรายละ 5,000 บาท สามารถมาลงทะเบียนของรับได้ที่แล็บทั้ง 6 สาขาทั่วประเทศ คือ ที่กทม. สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา สงขลา เชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งจะหมดเขตภายในสิ้นเดือนนี้
คูปองตรวจวิเคราะห์เป็นอีกการวสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร สามารถเข้ามาตรวจวัดคุณภาพสินค้าได้โดยแถบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะการตรวจวัดตรววจตัวในสินค้าที่เป็นอาหาร นั้นราคาสูงมากนัก เริ่มตั้งแต่หลักร้อย เป็นต้นไป จนถึงหลักพัน
นอกจากการ สนับสนุนคูปองแล้ว แล็บประชารัฐ ยังสร้างองค์ความรู้และทักษะด้านความปลอดภัยแหล่งปลูกหรือเพาะเลี้ยง ตรวจแหล่งผลิตต้นทางทั้งระบบ ตรวจผลผลิต ตรวจผลิตภัณฑ์หลังการแปรรูปและการสุ่มตรวจต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญเป็นพี่เลี้ยงแนะนำ การปรับปรุงที่ถูกต้องให้เข้าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งจะผนึกความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่มีเครือข่ายวิทยาเขตในต่างจังหวัดร่วมสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมชุมชนโดยเฉพาะขึ้น ทั้งนี้สินค้าที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะมีคุณภาพมาตรฐานที่ตลาดปลายทางเช่นห้างขนาดใหญ่พร้อมรับซื้อและยังสามารถขายในระบบออนไลน์ที่สสว.มีโครงการรองรับอยู่แล้ว”
นายสรุชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า CLT มีความพร้อมที่จะให้บริการและตอบสนองนโยบายรัฐบาล โดยจะมีการปรับปรุงระบบงานบริการให้กระชับและรวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนขององค์กรให้ต่ำลง เพื่อลดค่าบริการสำหรับผู้ประกอบการระดับชุมชน และมีแผนเพิ่มจุดบริการให้ครอบคลุม 18 กลุ่มจังหวัดเพื่อให้สินค้าจากชุมชนเข้าถึงบริการแล็บสะดวกและทั่วถึง
“เซ็นทรัลแล็บ”เป็นแล็บของรัฐถือหุ้นโดยกระทรวงการคลังและสสว. แม้จะเป็นหน่วยงานเล็กแต่มีบทบาทและความสำคัญมากในการเข้าไปช่วยยกระดับสินค้าชุมชน โอทอป เอสเอ็มอี ให้อยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนได้
สินค้าชุมชน หากมีการนำเรื่องราว(Story)ที่น่าสนใจมาใส่ มีการออกแบบ(Design)ที่สวยงามทันสมัยแล้ว ถ้าได้ผ่านการตรวจและรับรอง(Certify)ด้านคุณภาพมาตรฐานด้วย จะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาลและเป็นที่ต้องการของตลาด
และยิ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจากแล็บ ยิ่งทำให้สินค้าเหล่านั้นได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น ยังรวมถึงนอกประเทศด้วย