สกว.พร้อมต่อยอดงานวิจัยสู่พาณิชย์นาโนโปรวิตามินเอ-เครื่องดื่มเห็ดลม

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สกว.พร้อมต่อยอดงานวิจัยสู่พาณิชย์นาโนโปรวิตามินเอ-เครื่องดื่มเห็ดลม


สกว.พร้อมต่อยอดขยายผลเชิงพาณิชย์ในโครงการส่งเสริมนวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์ด้านการลงทุนจาก 2 งานวิจัย “นาโน โปรวิตามินเอ” ที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยโดยไม่ก่อให้เกิดการแก้ และ “เครื่องดื่มเปปไทด์จากเห็ดลม” เพื่อลดความดันโลหิตสูง

ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดการนำเสนอผลงานวิจัยในโครงการ “การส่งเสริมนวัตกรรมชีววิทยาศาสตร์ด้านการลงทุน” ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีศักยภาพในการต่อยอดเชิงพาณิชย์ และจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการ โดยมีนักวิจัยร่วมนำเสนอผลงานรวมทั้งสิ้น 10 ผลงาน ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และ สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย (ThaiBio)

สำหรับผลงานวิจัยของ สกว. ที่นำเสนอในครั้งนี้มี 2 ผลงาน ได้แก่ นาโน โปรวิตามินเอ โดย ศ. ดร. ศุภศร วนิชเวชารุ่งเรือง คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. เพื่อตอบโจทย์ปัญหาการใช้กรดวิตามินเอซึ่งเป็นสารต่อต้านริ้วรอยที่ดีที่สุด แต่การใช้งานมีปัญหาสองเรื่องคือ การก่อให้เกิดการแพ้ เช่น มีอาการคัน รอยดำ และการที่สารไม่เสถียรทางเคมี ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุสั้น คณะนักวิจัยจึงได้ออกแบบทางเคมีควบคู่กับการจัดตัวของสายพอลิเมอร์สร้างอนุภาคนาโนโปรวิตามินเอขึ้น อนุภาคที่ได้มีความเสถียรสูง และสามารถปลดปล่อยอนุพันธ์วิตามินเอออกมาได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อสัมผัสกับผิวหนัง ทำให้สามารถแก้ปัญหาการแพ้ได้ เนื่องจากไม่มีช่วงความเข้มข้นสูงเกินไปหลังทา และแก้ปัญหาการสลายตัวได้ เพราะจะปลดปล่อยที่ค่าความเป็นกรดเบสของผิว

ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นได้ผ่านการทดสอบการแพ้ครบถ้วนทั้งในสัตว์ทดลอง และการทดสอบสมบัติการต่อต้านริ้วรอยทั้งในระดับเซลล์สัตว์ทดลองโดยสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาสาสมัครโดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งพบว่าใน 12 สัปดาห์ การใช้งานที่ปริมาณเท่ากันอนุภาคนาโนโปรวิตามินเอให้ผลลดริ้วรอยได้ดีกว่ากรดวิตามินเออย่างชัดเจน แต่ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ซึ่งผลงานวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์เป็นเครื่องสำอาง และสามารถพัฒนาต่อเป็นยารักษาสิวได้ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังต้องการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับ microneedle ซึ่งใช้เข็มขนาดเล็กมาก ๆ ส่งผ่านนาโน โปรวิตามินเอลงสู่ผิวหนังในระดับลึก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทันทีหลังการใช้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 1 ปี ก่อนขยายผลในระดับอุตสาหกรรมต่อไป

อีกหนึ่งผลงานคือ เครื่องดื่มเปปไทด์สกัดจากเห็ดลม ที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตสูง ต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดย ผศ. ดร.รักฤดี สารธิมา และคณะ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) สกว. ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของการดูแลสุขภาพ โดยเครื่องดื่มนี้มีส่วนประกอบของผลิตผลจากธรรมชาติและมีประโยชน์สุขภาพ นอกจากเห็ดลมที่เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งผลการวิจัยพบว่ามีเปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “แองจิโอเทนซิน-1 คอนเวอร์ทิงเอนไซม์ (ACE-I) ที่จะมีผลควบคุมความดันโลหิตสูงให้ลดลงได้แล้ว ยังมีส่วนประกอบจากสารธรรมชาติอื่น ๆ จากเห็ดชนิดนี้ เช่น สารพิลิฟีนอล และเบต้า-กลูแคน รวมถึงสรรพคุณทางยาอื่น ๆ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง และฤทธิ์ต้านการอักเสบ เป็นต้น

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์และร่วมลงทุนได้ที่ฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. โทร. 0 2278 8243



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ