สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับอิมแพ็ค และพันธมิตรธุรกิจจากฝรั่งเศส จัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี และการเจรจาธุรกิจ เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งอาเซียนครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ INTERMAT ASEAN 2017 โดยนำผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้างกว่า 300 บริษัทชั้นนำทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนความรู้ และจัดแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรสมัยใหม่ หวังเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริหารโครงการก่อสร้างได้เลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องจักร แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ส่งเสริมให้งานก่อสร้างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า  มูลค่าโครงการก่อสร้างไทยในปัจจุบันรวมมากกว่า 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และจะแล้วเสร็จในปี2563 โดยเป็นโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้ามากที่สุดมีการลงทุนถึง1.5 แสนล้านบาทภายใน 3 ปี รวมถึงการพัฒนาอาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยซึ่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 25% ในปีพ.ศ.2568 นอกจากนี้ ข้อมูลทางสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรประเมินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะเติบโตอย่างน้อย 10% ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และอัตราค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาเครื่องจักรก่อสร้างมากขึ้น เพื่อประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และได้งานที่มีคุณภาพดีอีกด้วย

ทั้งนี้  ทางสมาคมฯ ตระหนักและให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนทั้งในไทย และต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ได้แก่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ และ คอมเอ็กโพเซียม กรุ๊ป ประเทศฝรั่งเศส จัดงานดังกล่าว ยังใช้ในการเจรจาธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งอาเซียนครั้งแรกในประเทศไทย วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารโครงการก่อสร้างต่างๆ ได้รับรู้ข้อมูล และเลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรสมัยใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมการก่อสร้างไทย และอาเซียน

ด้าน นางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ ผอ. อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า  งานนี้ ถือเป็นเวทีกลางส่งเสริมการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการก่อสร้างอาคารในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างกว่า 300 บริษัทจาก 18 ประเทศ คือออสเตรีย จีน ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซียเนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า ยังจะเป็นประตูสู่ตลาดการก่อสร้างอาคาร และโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

ส่วน มิสอิสซาเบล อัลฟาโน ผอ.หน่วยธุรกิจ คอมเอ็กโพเซียม กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า ด้วยประเทศไทยเป็นเสมือนศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนที่สามารถกระจายเทคโนโลยีและองค์ความรู้ต่างๆ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับศักยภาพด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติบโตต่อเนื่อง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะจัดงานนี้ ยังมีการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ สัมมนาวิชาการ จากวิศวกรรมโยธา ผู้ผลิตอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านงานขนย้ายดินและหิน การผลิตคอนกรีต งานอาคารและสถานที่ การยกและเคลื่อนย้าย การขุดเจาะ งานโครงสร้างพื้นถนน เครื่องจักรและอุปกรณ์เหมืองแร่ ยานพาหนะและการขนส่ง การรื้อถอน การรีไซเคิล เป็นต้น พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก เคส คอนสตรัคชั่น อีควิปเม้นท์(Diamond Sponsor), Manitou Group (Platinum Sponsor)JCB และ XCMG(Gold Sponsors) รวมถึง Coffral-Enthana, Hitachi, Kobelco, STIT(Bronze sponsors)

ปิดท้าย มิสเตอร์ดานิโล คาทาลูซซี่ หัวหน้าฝ่ายการตลาด เคส คอนสตรัคชั่น อีควิปเม้นท์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เราทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าของเราในการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับแก้ปัญหาในการทำงานที่มักพบในไซต์งาน ทั้งสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และสถานที่ก่อสร้างที่พวกเขาทำงาน สภาพที่อยู่ของพวกเขา และบริษัทมุ่งหวังที่จะมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบโครงการก่อสร้างแห่งอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุนี้เราจึงตัดสินใจที่จะร่วมแสดงสินค้าภายในงาน INTERMAT ASEAN ในฐานะ Diamond Sponsor กับแบรนด์ CASE Construction Equipment ของเราด้วย